ไอเดียจัดบ้านเอาใจแม่ สร้างความสุข ถูกใจผู้สูงอายุ

สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลากหลายวัย ตั้งแต่รุ่นลูกจนถึงรุ่นปู่ยาตายาย เมื่อจะออกแบบตกแต่งบ้านทั้งที ไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงพื้นที่การใช้งานร่วมกันแล้ว ยังต้องใส่ใจในการจัดแต่งพื้นที่ส่วนตัวของคนแต่ละวัยด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ที่ต้องการความสะดวกและปลอดภัยมากกว่าวัยอื่น ๆ ใกล้วันแม่ทั้งที BnB home ขอชวนทุกคนมาดูไอเดียการออกแบบจัดบ้านเอาใจแม่ และผู้สูงอายุ เพื่อความอุ่นใจและปลอดภัย ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เข้ากับการดำเนินชีวิตได้ง่าย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ

1. การออกแบบออกแบบประตู และทางเข้าออก

• ควรทำประตูให้เข้าออกสบายมีความกว้างเพียงพอ และไม่ควรมีธรณีประตู เพื่อให้การเดินเข้าออกราบรื่นที่สุด ไม่ต้องระวังการสะดุดล้ม

• ทางเข้าตัวบ้านควรมีทางลาดสำหรับรถเข็น ให้มีความกว้างอย่างน้อย 1.50 เมตร ไว้สำหรับเหตุฉุกเฉินและอำนวยความสะดวกโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องนั่งรถเข็น

• ประตูหน้าต่างควรเลือกที่เปิดปิดง่าย เพื่อที่พ่อกับแม่จะได้ไม่ต้องออกแรงเยอะ แนะนำให้เป็นประตูและหน้าต่างแบบบานเลื่อน นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่แล้ว ยังสะดวกต่อการเปิดปิดที่ไม่ต้องใช้แรงเยอะอีกด้วย

• หากบ้านเราเป็นประตูแบบเปิดที่ไม่ใช่บานเลื่อน ก็ควรเปลี่ยนจากลูกบิด มาเป็นคานจับโยก เพราะใช้แค่น้ำหนักมือลงเล็กน้อย ก็สามารถเปิดประตูได้และไม่ลื่นมือ

2. การออกแบบทางเดินภายในบ้าน เพื่อผู้สูงอายุ

• ทางเดินภายในบ้านควรจะมีพื้นสม่ำเสมอทั้งตัวบ้าน ควรออกแบบให้เดินได้สะดวกสบาย ไม่ควรเป็นพื้นต่างระดับหรือมีธรณีประตู ไม่ว่าจะบริเวณทางเดิน ชานบ้าน ระเบียง ควรต้องเรียบสม่ำเสมอกัน

• ควรเลือกวัสดุปูพื้นที่ไม่ลื่น และควรเลือกที่มีความอ่อนนุ่มและยืดหยุ่นที่สุด เผื่อไว้ถ้ามีการหกล้ม จะช่วยลดอันตรายได้

• ควรติดตั้งราวไว้จับทรงตัวตลอดทางเดิน เผื่อความสะดวกในการพยุงตัวของคุณแม่

3. การออกแบบบันได เพื่อผู้สูงอายุ

• บันไดควรมีลูกตั้งสูงไม่เกิน 15 ซม. และไม่ควรเป็นแบบเปิดโล่ง ส่วนลูกนอนกว้างไม่น้อยกว่า 28 ซม. และควรมีชานพักทุกระยะไม่เกิน 2 เมตร

• ควรติดตั้งราวจับบันไดทั้งสองด้านเพื่อให้สะดวกในการเดินขึ้นลง

• ควรเลือกพื้นบันไดที่สีไม่ลายตา เพื่อช่วยให้มองเห็นได้ง่าย

• ควรจัดแสงสว่างให้เพียงพอตลอดแนวบันได เนื่องจากผู้สูงอายุ จะมีความเสื่อมของสายตา ทำให้ต้องการแสงสว่างเพิ่มขึ้นมากขึ้น ดังนั้นจึงควรมีแสงสว่างที่เพียงพอ และไม่ควรวางหรือมีสิ่งของกีดขวางทางเดินบันได

4. การออกแบบห้องนอน เพื่อผู้สูงอายุ

• ควรจัดห้องนอนสำหรับพ่อแม่ผู้สูงอายุให้อยู่ชั้นล่างของบ้าน เพื่อไม่ให้ต้องขึ้นลงบันไดเยอะ

• ควรจัดห้องนอนให้อยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไป ไม่ควรมีมุมอับภายในห้อง และไม่ควรเก็บสิ่งของที่ไม่จำเป็นไว้ภายในห้องนอน เพราะจะทำให้เกิดการสะสมของฝุ่น

• เตียงนอน ต้องเดินได้ทั้ง 3 ด้าน โดยการออกแบบให้เตียงไม่สูง เพื่อให้พอดีกับความสูงของคุณแม่ และข้างเตียงควรมีราวจับ เพื่อป้องกัน การหกล้มจากเตียงโดยเฉพาะเวลาตื่นนอน หรือลุกขึ้นเข้าห้องน้ำเวลากลางคืน

5. การออกแบบห้องน้ำ เพื่อผู้สูงอายุ

• ประตูห้องน้ำควรเป็นแบบบานเลื่อน รางบานเลื่อนยิ่งเรียบยิ่งดี

• พื้นห้องน้ำควรเป็นพื้นที่เรียบเสมอกัน ไม่มันเงา และควรเลือกใช้วัสดุพื้นที่ไม่ลื่น แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อย และควรจะมีราวจับหรือมีที่นั่งตรงบริเวณที่อาบน้ำ

• โถส้วมให้เลือกใช้เป็นแบบนั่ง ทำระดับโถส้วมให้สูงพอดี และควรมีราวจับบริเวณใกล้โถนั่งไว้สำหรับพยุงตัวเวลาลุกนั่ง

6. การออกแบบพื้นที่ทั่วไปภายในบ้าน เพื่อผู้สูงอายุ

• การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านควรให้เป็นระเบียบ ไม่รกจนเกินไป เพื่อการเดินที่สะดวกของคุณพ่อคุณแม่

• ควรมีพื้นที่ส่วนกลางที่กว้างขวางพอเหมาะเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มีพื้นที่บริหารร่างกายยามว่าง ที่ช่วยทำให้ลดความเครียดได้ และควรจัดให้มีมุมพักผ่อน สำหรับผู้สูงอายุ เช่น มุมสวนเล็ก ๆ มีสนามหญ้า เป็นต้น เพื่อให้ท่านได้ออกกำลังกายหรือใช้ทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกคนอื่น ๆ

• เลือกใช้สีในการตกแต่งบ้านให้เหมาะสม เนื่องจากพ่อแม่ผู้สูงอายุมีการมองเห็นและความสามารถในการแยกสีที่คล้ายกันได้ลดลง เช่น แยกสีฟ้า ม่วง เขียว ไม่ออก ดังนั้นการเลือกใช้สีที่สดใสจะช่วยส่งเสริมการมองเห็น และช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้

ทั้งหมดนี้เป็นไอเดียในการจัดบ้านเพื่อให้สะดวกสบายต่อพ่อแม่ผู้สูงอายุ นอกจากให้พวกท่านได้อยู่อย่างมีความสุขทั้งกายและใจแล้ว ยังช่วยให้คนเป็นลูก ๆ อย่างเราอุ่นใจได้มากขึ้นอีกด้วยนะครับ

ขอบคุณภาพจาก : pinterest.com