ไม่พบรายการที่ท่านค้นหา

เลือกพัดลมเพดานและพัดลมโคมไฟให้เข้ากับทุกห้อง

          เมืองไทยเป็นเมืองร้อน พัดลมเพดานจึงเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดบ้านคนไทยมาหลายยุคหลายสมัย และเพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดตั้งแล้วประหยัดพื้นที่ และสามารถให้ความเย็นได้ครอบคลุมพื้นที่กว้าง จึงทำให้พัดลมเพดานยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งพัดลมเพดานนี้ ได้มีการออกแบบและประยุกต์ขึ้นมาในหลากหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นก็คือพัดลมโคมไฟ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาทั้งด้านดีไซน์และฟังก์ชั่นที่มากกว่าพัดลมเพดานทั่วไป
          บทความนี้ BnB home จะพาคุณไปทำความรู้จักพัดลมเพดานและพัดลมโคมไฟให้มากขึ้น รวมถึงคำแนะนำหากจะเลือกซื้อพัดลมทั้งสองแบบ

พัดลมเพดาน

          สิ่งที่พัดลมเพดานแตกต่างกับพัดลมรูปแบบปกติ นอกจากเรื่องลักษณะการติดตั้งแล้ว ยังมีอีกข้อคือ ไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อใช้งาน แต่จะเป็นการเดินสายไฟ เพื่อเชื่อมพัดลมเพดานเข้ากับเบรกเกอร์และสวิตช์ไฟแทน เมื่อต้องการใช้งานก็แค่เปิดสวิตช์
หลัก ๆ แล้วพัดลมเพดานจะมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ

          1. พัดลมเพดานแบบใบพัด

          เป็นพัดลมที่จะมีจุดเด่นตรงที่มีใบพัดขนาดใหญ่ มีให้เลือกทั้งแบบ 3, 4, 5 ใบพัด และมีมอเตอร์อยู่ตรงกลาง นิยมใช้สำหรับห้องที่มีขนาดใหญ่ เพราะขนาดของพัดลมที่ใหญ่จะทำให้สามารถกระจายอากาศและความเย็นได้ทั่วห้อง พัดลมประเภทนี้จะมีระบบควบคุมได้หลายแบบ ทั้งแบบที่เป็นสวิตช์เปิดปิดติดผนัง เป็นโซ่ดึงหรือชุดรีโมทควบคุม

          2. พัดลมเพดานแบบโคจร

          เป็นพัดลมเพดานที่มีรูปร่างและขนาดคล้ายกับพัดลมทั่วไป ตัวพัดลมจะมีขนาดเล็กกว่าพัดลมแบบใบพัด และแตกต่างกันตรงที่พัดลมโคจรมีตะแกรงครอบใบพัด เพื่อช่วยในการกรองเศษฝุ่นที่จะเข้าไปในมอเตอร์ พัดลมแบบนี้จะมีจุดเด่นที่สามารถหมุนได้รอบทิศทาง ทำให้ความเย็นกระจายได้เป็นจุด ๆ ทั่วห้อง

พัดลมโคมไฟ

          ถือเป็นพัดลมเพดานอีกประเภทที่ถูกออกแบบให้มีทั้งดีไซน์และมีฟังก์ชั่นเพิ่มขึ้นมา ซึ่งนอกเหนือจากความเย็นแล้ว ยังให้แสงสว่างและเป็นของตกแต่งเพิ่มความสวยงามให้กับห้องได้
          แน่นอนว่าพัดลมเพดานให้ประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน เพราะใช้กระแสไฟฟ้าเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเครื่องปรับอากาศ แถมยังสามารถเปิดใช้งานร่วมกับเครื่องปรับอากาศเพื่อทำให้ความเย็นกระจายไปทั่วทั้งห้อง และประหยัดค่าไฟมากขึ้น อีกทั้งรูปแบบของตัวพัดลมยังมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวัสดุไม้ เหล็ก หรือแม้กระทั่งประเภทที่มีรีโมทควบคุมระยะไกลให้เลือกอีกด้วย
สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนติดตั้งพัดลมเพดานทั้ง 2 ประเภท
          1. อันดับแรกต้องคิดถึงเรื่องสัดส่วนของพัดลมและขนาดของห้อง หากเลือกพัดลมขนาดใหญ่จนเกินไปก็อาจจะทำให้ห้องดูอึดอัด แต่หากเล็กเกินไปก็ดูจะไม่น่าดึงดูด ทำให้ความเย็นและแสงสว่างไม่เพียงพอ
          ก่อนซื้อควรทราบพื้นที่ของห้องที่จะนำไปติดตั้ง และนำมาคำนวณกับขนาดสัดส่วนเส้นผ่านศูนย์กลางของพัดลมทั้งหมดตั้งแต่ปลายสุดของใบพัดด้านหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง โดยมีมาตรฐานการวัดเอาไว้คร่าว ๆ ดังนี้
          • พัดลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 32 - 36 นิ้ว เหมาะกับห้องที่มีขนาด 9 - 10 ตารางเมตร
          • พัดลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 - 48 นิ้ว เหมาะกับห้องที่มีขนาด 20 - 21 ตารางเมตร
          • พัดลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 52 - 54 นิ้ว เหมาะกับห้องที่มีขนาด 36 - 37 ตารางเมตร
          • พัดลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 56 นิ้วขึ้นไป เหมาะกับห้องที่มีขนาด 37 ตารางเมตรขึ้นไป
          2. ระดับความสูงในการติดตั้งพัดลมโคมไฟ มีหลักการมาตรฐานในการวัดระยะจากพื้นถึงใบพัดควรมีระยะอย่างน้อย 50 เซนติเมตร เพราะหากแขวนต่ำเกินไปอาจเสี่ยงอันตรายกับคนในบ้านได้ แต่ถ้าติดตั้งความสูงที่มากเกินไป ก็จะทำให้ระบบไหลเวียนของอากาศไม่ดีพอ หากบ้านมีระดับเพดานต่ำ แนะนำให้เลือกซื้อเป็นพัดลมโคมไฟแบบ low - profile หรือพัดลมที่มีก้านสั้น ที่จะช่วยให้การติดตั้งมีระยะที่พอดีมากกว่า ช่วยให้อากาศไหลเวียนภายในห้องได้อย่างเพียงพอ
          3. พื้นที่การใช้งานพัดลม ซึ่งพัดลมเพดานมีทั้งประเภทที่ใช้งานภายนอกบ้านและภายในบ้าน ถ้าใช้ภายนอกควรใช้เป็นใบพัดประเภทเอบีเอส (ABS) หรืออะคริลิค ที่ทนกับความชื้นภายนอก หากเลือกใช้พัดลมที่วัสดุไม่เหมาะสมอาจทำให้อายุการใช้งานของพัดลมสั้นลงได้
          ไม่ว่าจะเป็นพัดลมเพดานหรือพัดลมโคมไฟก็มีข้อดีและมีดีไซน์ที่สวยงามด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของเจ้าของบ้าน หากใครกำลังคิดจะซื้อพัดลมเพดาน ลองนำปัจจัยที่กล่าวมาข้างบนไปพิจารณาได้ครับ

>> ช้อปพัดลมเพดาน และพัดลมโคมไฟ ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เลือกพัดลมอย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน
รวม 6 วิธี ประหยัดพลังงานไฟฟ้าภายในบ้าน

สินค้าแนะนำ