เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เลือกให้ดี ทำความสะอาดง่ายขึ้น
เครื่องดูดฝุ่น ถือเป็นอุปกรณ์ที่เหล่าพ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ต้องซื้อติดไว้แทบทุกบ้าน เพื่อทดแทนอุปกรณ์ที่ใช้กำจัดฝุ่นแบบดั้งเดิมอย่างไม้กวาดหรือไม้ปัดฝุ่น ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นเรียกได้ว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการทำความสะอาดบ้านได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตามเครื่องดูดฝุ่นรุ่นเก่า ๆ ก็ยังไม่ได้ตอบโจทย์ความสะดวกสบายเสียทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ตัวเครื่องที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้เคลื่อนย้ายลำบาก หรือจะเป็นสายไฟที่ต่อจากตัวเครื่องมีความยาวจำกัด หากใช้ในพื้นที่กว้างก็ต้องย้ายที่เสียบปลั๊กใหม่อยู่เรื่อย ๆ เป็นต้น ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นไร้สายจึงกลายมาเป็นตัวเลือกใหม่ที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
สำหรับพ่อบ้านแม่บ้านที่กำลังตัดสินใจซื้อเจ้าเครื่องทุ่นแรงประเภทนี้ลองมาดูวิธีในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เพื่อให้ได้ของดีมีคุณภาพกลับไปใช้งานที่บ้านได้อย่างสบายใจกันครับ
เลือกเครื่องดูดฝุ่นไร้สายจากความแรงในการดูด (PA) และ กำลังวัตต์ (Watt)
ค่า PA หรือค่าแรงดูด คือหน่วยวัดความดันสำหรับเครื่องดูดฝุ่น (Suction Pressure) ซึ่งส่วนใหญ่เครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ขายตามท้องตลาดจะมีแรงดูดตั้งแต่ 8,000 - 27,000 PA หากค่า PA ยิ่งมากยิ่งดี เพราะหมายถึงเครื่องที่มีแรงดูดได้มาก
ในส่วนของกำลังวัตต์ หมายถึงกำลังไฟที่มอเตอร์กินนั่นเอง ถ้าเป็นแบบไร้สายกำลังวัตต์จะอยู่ที่ประมาณ 150 - 700 วัตต์ โดยทั่วไปแล้วผู้ผลิตจะต้องพยายามออกแบบเครื่องดูดฝุ่นให้กินไฟน้อยแต่มีกำลังดูดที่มาก เราจึงควรดูค่า PA และกำลังวัตต์ประกอบกัน
เลือกเครื่องดูดฝุ่นไร้สายจากความจุแบตเตอรี่
ก่อนเลือกเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ลองพิจารณาลักษณะการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณก่อนว่าต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้งานนานเท่าไรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เพราะความจุของแบตเตอร์รี่มีผลต่อเวลาในการใช้งาน ยิ่งเครื่องดูดฝุ่นไร้สายมีความจุแบตเตอรี่มากเท่าไร ก็จะช่วยให้เราทำความสะอาดบ้านได้นานขึ้นเท่านั้น เครื่องดูดฝุ่นรุ่นทั่วไปสามารถใช้งานได้ตั้งแต่ 20 - 45 นาที บางรุ่นสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 60 - 80 นาทีเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการปรับระดับความแรงในการใช้งานแต่ละครั้งด้วย ถ้าใช้โหมดดูดแรงสูงก็จะดูดได้ไม่กี่นาที แต่ถ้าโหมดแรงปกติก็จะดูดได้นานขึ้น
ขนาดพื้นที่ช่วยเลือกเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
เมื่อเลือกความจุแบตเตอร์รี่แล้ว ก็ต้องมาดูพื้นที่ใช้สอยประกอบด้วย ถ้าเป็นบ้านซึ่งมีพื้นที่ในการทำความสะอาดค่อนข้างเยอะ ก็ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีระยะการใช้งานที่นานขึ้น เพราะเราอาจใช้เวลาในการทำความสะอาดนานกว่าพื้นที่เล็ก ๆ เช่นในคอนโด
การใช้งานของหัวดูด ปุ่มกดต่าง ๆ ของเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
หัวดูดที่เหมาะสมคือหัวดูดที่สามารถบังคับทิศทางได้ง่าย จะพื้นที่ใหญ่หรือตามซอกและมุมก็เข้าถึงสะดวก หรือแม้แต่ในส่วนของปุ่มกด บางรุ่นของเครื่องดูดฝุ่นไร้สายจะต้องกดปุ่มค้างไว้เพื่อให้เครื่องดูดฝุ่นทำงาน ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ความสะดวกของพ่อบ้านแม่บ้านบางคน ก็ควรเลือกที่กดปุ่มให้ทำงานเพียงครั้งเดียว
น้ำหนักและความดังของเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
ก่อนจะเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ควรดูที่น้ำหนักตัวเครื่องด้วย หากมีโอกาสควรทดลองหยิบจับเครื่องจริงดูก่อนซื้อ เพราะหากคุณใช้งานเครื่องเป็นเวลานาน น้ำหนักของเครื่องจะมีผลต่อความสะดวกในการใช้งานโดยตรง รวมถึงเสียงของเครื่องขณะใช้งานอีกด้วย หากเสียงดังเกินไปจะเป็นการรบกวนทั้งผู้ใช้และคนรอบข้างได้
อุปกรณ์เสริมต่างๆ สำหรับเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
บางทีการดูดฝุ่นที่พื้นอย่างเดียวอาจไม่พอ เครื่องดูดฝุ่นไร้สายส่วนใหญ่จะมีอุปกรณ์เสริมมาให้มากมาย เช่น หัวแปรงดูดทำความสะอาดขนสัตว์ หัวสำหรับถูพื้น แปรงทำความสะอาดเพดาน หัวดูดในรถยนต์ เป็นต้น
ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นที่มีราคาประมาณ 700 - 2,000 กว่าบาท จะมีอุปกรณ์หลัก ๆ อยู่สามชิ้น คือหัวดูดพื้น หัวดูดปากแคบและหัวแปรง แต่ถ้าราคาสูงกว่านั้นอาจมีฟังก์ชั่นในการถูพื้นในตัว และหัวดูดแบบอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา ยิ่งราคาหลักหมื่นก็จะมีหัวดูดชนิดต่าง ๆ เสริมเข้ามามากมายเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของหลากหลายพื้นที่
เลือกแบรนด์หรือร้านที่น่าไว้ใจ
ในปัจจุบันแต่ละแบรนด์ได้ผลิตและพัฒนาเครื่องดูดฝุ่นไร้สายมาหลายรูปแบบ และออกมาได้ค่อนข้างดีกันอยู่แล้ว หากเลือกซื้อในออนไลน์ก็ควรเลือกร้านตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ หรือร้านของแบรนด์นั้น ๆ โดยตรง เน้นบริการหลังการขายให้ดี ติดต่อง่าย พูดจาสุภาพ และมีการรับประกันสินค้าไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพราะหากเครื่องมีปัญหาจะได้ไม่ต้องปวดหัวภายหลัง
ขอบคุณภาพจาก : pinterest.com
>> ช้อปเครื่องดูดฝุ่น ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ