ทำอาหารแล้วควันโขมง เลือกเครื่องดูดควันแบบไหนดี

          บ้านที่ชอบทำอาหาร และกำลังหนักใจทั้งเรื่องกลิ่น ควัน คราบควัน และคราบน้ำมัน ติดตั้งเครื่องดูดควันในครัวช่วยคุณได้ครับ เพราะหน้าที่หลักของมันคือ ทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น เมื่อคุณทำอาหารที่มีควัน ไอน้ำ กลิ่น หรือละอองไขมัน เครื่องดูดควันจะดูดสิ่งเหล่านี้เข้าไป จากนั้นจะกรองสิ่งสกปรกและมลพิษออกไป เหลือไว้เพียงอากาศที่ดี ซึ่งเครื่องดูดควันมีหลากหลายประเภท และมีฟังก์ชั่นการทำงานที่แตกต่างกันอยู่ดังนี้

1. เครื่องดูดควันแบบมาตรฐาน

เครื่องดูดควันมาตรฐาน TECNOPLUS รุ่น HD 6048 DG ขนาด 60 ซม. สีสเตนเลส

          เครื่องดูดควันแบบนี้ เหมาะสำหรับห้องครัวที่มีพื้นที่จำกัด ไม่สามารถติดเครื่องดูดควันขนาดใหญ่ได้ จึงนิยมติดตั้งและใช้งานกันมากในคอนโดหรืออพาร์ทเมนท์ ซึ่งจะมีระบบการดูดควันให้เลือก 2 แบบ คือ ระบบต่อท่อออก เครื่องจะดูดควันและกลิ่นออกไปด้านนอกอาคาร หลักการทำงานจะเหมือนกับเครื่องดูดควันแบบกระโจมติดผนังและกระโจมกลางห้อง แต่จะมีกำลังดูดที่น้อยกว่า ส่วนระบบหมุนเวียน เครื่องจะดูดควันและกลิ่นเข้าไป แล้วผ่านการกรองด้วยแผ่นฟิลเตอร์และแผ่นคาร์บอน จากนั้นเครื่องก็จะปล่อยอากาศที่กรองเรียบร้อยออกมาอีกครั้ง

2. เครื่องดูดควันกระโจมติดผนัง

เครื่องดูดควันกระโจม MEX รุ่น K631X90 ขนาด 90 ซม. สีสเตนเลส

          ถือเป็นเครื่องดูดควันแบบที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เหมาะสำหรับห้องครัวที่มีขนาดกลาง - ใหญ่ มีพื้นที่ส่วนปรุงอาหาร และเตาทำอาหารอยู่ติดผนัง ลักษณะของเครื่องจะคล้ายกระโจมอยู่ด้านบน มีท่อต่อระบายอากาศไปด้านนอก ควัน กลิ่น และละอองน้ำมันจึงไม่หมุนเวียนสะสมอยู่ภายในห้องครัว

3. เครื่องดูดควันแบบกระโจมกลางห้อง

ภาพสำหรับประกอบบทความ

          เครื่องดูดควันจะห้อยลงมาจากเพดานกลางห้อง เหมาะสำหรับห้องครัวที่มีขนาดใหญ่ ที่ออกแบบให้เคาน์เตอร์ปรุงอาหารและเตาทำอาหารอยู่ตรงกลางห้อง ประสิทธิภาพในการดูดควันของเครื่องดูดควันแบบนี้ ถือว่ามีพลังดูดมากที่สุด ใน 3 แบบ เนื่องจากต้องใช้กับห้องครัวที่มีขนาดใหญ่ และพื้นที่ทำอาหารเป็นลักษณะเปิดโล่ง ซึ่งหากต้องการให้การระบายอากาศมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีก แนะนำให้ใช้เพดานปูนในการปกปิดท่อระบายอากาศ

          ได้ทราบเกี่ยวกับประเภท และฟังก์ชั่นการทำงานของเครื่องดูดควันกันไปแล้ว คราวนี้เราลองมาดูกันต่อว่า การเลือกซื้อเครื่องดูดควันให้เหมาะสมกับการใช้งานที่บ้านคุณ ต้องเริ่มพิจารณาจากอะไรก่อนดี

1. ขนาดตัวเครื่องที่ลงตัวกับครัว

          ควรเลือกเครื่องดูดควันให้เหมาะกับจำนวนและขนาดของเตาที่ปรุงอาหาร เลือกให้พอดีกับพื้นที่เตาหรือใหญ่กว่าเล็กน้อย เพื่อให้มั่นใจว่าควันและกลิ่นจากการทำอาหารจะถูกดูดกลับขึ้นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งขนาดมาตรฐานของเครื่องดูดควันทั่วไปอยู่ที่ 60 เซนติเมตร, 90 เซนติเมตร และ 120 เซนติเมตร หากเลือกเครื่องดูดควันที่เล็กเกินไปก็จะดูดควันและกลิ่นได้ไม่หมด หากเลือกใหญ่เกินไปจะสิ้นเปลืองพลังงานได้ ส่วนความสูงและความลึกของเครื่องดูดควันให้ดูจากขนาดของห้องครัว และขนาดพื้นที่ที่ต้องติดตั้ง ความสูงควรอยู่ในระดับที่สามารถทำความสะอาดได้

 2. กำลังการดูดอากาศที่เหมาะสม

          กำลังการดูดอากาศเป็นอีกเรื่องสำคัญที่จะทำให้ควันและกลิ่นถูกกำจัดไปได้หมด ซึ่งกำลังในการดูดต้องเพียงพอที่จะหมุนเวียนอากาศภายในห้องครัวให้ได้ 10 รอบต่อชั่วโมง ซึ่งสามารถคำนวนได้ง่าย ๆ ว่าห้องครัวของคุณเหมาะกับกำลังดูดอากาศอยู่ที่เท่าใด สามารถคำนวนจากพื้นที่ครัว โดยคิดจาก ความยาว X ความกว้าง X ความสูง (หน่วยเป็นเมตร) X 10 = ความเร็วต่ำสุดของเครื่องดูดควันที่ต้องการ หากบ้านคุณถูกออกแบบให้ใช้เครื่องดูดควันแบบกระโจมกลางห้อง ควรเลือกกำลังในการดูดควันที่เร็วมากขึ้น เช่น ควรมีกำลังดูดอากาศอย่างน้อยชั่วโมงละ 1,500 – 2,000 ลูกบาศก์เมตร อีกทั้งยังควรเลือกปรับความแรงลมได้หลายระดับ เพื่อให้สามารถเลือกปรับระดับการใช้งานได้ตามลักษณะการทำอาหาร

3. ประเภทของฟิลเตอร์ในเครื่องดูดควัน

          ควันและกลิ่นที่เกิดจากการทำอาหารที่ถูกดูดเข้าไปในเครื่องดูดควัน ก็จะถูกกรองโดยแผ่นฟิลเตอร์ เพื่อกำจัดไขมัน ควัน และไอน้ำ ซึ่งโดยทั่วไปตัวฟิลเตอร์กรองควันจะมี 3 ประเภท คือ ฟิลเตอร์ตาข่าย ที่ทำจากอลูมิเนียมคุณภาพดีหลายชั้น ฟิลเตอร์ดักน้ำมัน ทำจากสแตนเลสหรืออลูมิเนียมหลายแผ่น ลักษณะเป็นรางรองรับน้ำมัน ฟิลเตอร์ทั้ง 2 ประเภทนี้ ควรถอดออกมาล้างทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อไม่ให้อุดตัน ไม่เช่นนั้นเครื่องดูดควันจะทำงานหนักและเสียงจะดังขึ้น สุดท้าย ฟิลเตอร์ถ่าน ที่สามารถดูดซับกลิ่นในครัวได้เป็นอย่างดี แนะนำให้เปลี่ยนทุก 2 - 3 เดือน เพราะไม่สามารถล้างทำความสะอาดได้

4. เครื่องดูดควันที่มีเสียงรบกวนน้อย

          เครื่องดูดควันที่ปรับระดับความแรงลมสูงสุดและที่ทำงานเต็มกำลัง เสียงรบกวนจะดังอยู่ที่ 52 – 55 เดซิเบล เสียงดังประมาณเครื่องเป่าผม ซึ่งบางยี่ห้อเสียงรบกวนขณะเครื่องทำงานจะอยู่ที่ประมาณ 44 เดซิเบล เสียงดังประมาณคนกระซิบคุยกันในห้องสมุด และเมื่อใช้งานไประยะหนึ่งเสียงอาจดังเพิ่มขึ้น เนื่องจากฟิลเตอร์ตาข่ายอุดตัน ไม่ได้ทำความสะอาด 

ขอบคุณภาพจาก: pinterest.com

ขอบคุณข้อมูลจาก: baanlaesuan.com, electrolux.co.th, hafelethailand.com

>> ช้อปเครื่องดูดควัน ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

รู้ก่อนเลือก หัวเตาแก๊สแบบที่เหมาะกับการใช้งาน

ชวนมาใช้ผลิตภัณฑ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 ช่วยกันประหยัดพลังงาน