เลือกมู่ลี่ไม้อย่างไรให้เหมาะกับบ้าน

ด้วยดีไซน์ที่สวย ดูอบอุ่นและให้ความเป็นธรรมชาติ ทำให้ มู่ลี่ไม้ ได้รับความนิยมขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน นอกจากความสวยงามแล้ว การใช้มู่ลี่ไม้นั้นยังสามารถควบคุมทิศทางของแสง และเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ตามที่เราต้องการอีกด้วย สำหรับเจ้าของบ้านที่กำลังสนใจเลือกใช้มู่ลี่ไม้ในการตกแต่งบ้าน ในบทความนี้ BnB home จะชวนทุกคนไปดูวิธีการเลือกมู่ลี่ไม้ให้ถูกใจกันครับ เลือกอย่างไรให้ใช้งานได้นานและเข้ากับการตกแต่งบ้านมากที่สุด

เลือกมู่ลี่ไม้ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง

1. วัสดุในการทำมู่ลี่ไม้

ประเภทวัสดุที่ใช้ทำมู่ลี่ไม้มีทั้งไม้จริงและไม้เทียม ดังนี้

• มู่ลี่ไม้แท้ ผลิตจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้โอ๊ค ไม้รามิน ไม้มะฮอกกานี เป็นต้น จะมีคุณสมบัติที่มีความทนทานสูง ให้ลวดลายที่สวยงาม มู่ลี่ไม้แท้ในปัจจุบันได้มีการเคลือบสารป้องกัน UV เพื่อป้องกันไม้จากการขยายตัวเมื่อได้รับแสงแดด และลดการซีดจางของสีได้อีกด้วย แต่ก็จะมีราคาแพงกว่าวัสดุที่เป็นไม้เทียม

• มู่ลี่ไม้เทียม ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ เช่น พลาสติก ไวนิล UPVC Polystyrene เป็นต้น มีคุณสมบัติทนแดดจัด ไม่ซีดไม่ลอก และกันน้ำได้ดี ราคาถูกกว่ามู่ลี่ไม้แท้ แต่ก็จะทนทานไม่เท่าไม้แท้เช่นกัน

2. ระบบการใช้งานของมู่ลี่

ระบบการใช้งานของมู่ลี่ไม้มีหลากหลายขึ้นอยู่กับความสะดวกของเจ้าของบ้าน โดยที่ราคาและการฟังก์ชันการใช้งานก็ต่างกันไป

• ระบบเชือกดึง เป็นระบบการทำงานของมู่ลี่ไม้โดยทั่วไป มีการปรับองศาใบมู่ลี่ และการเก็บและกางมู่ลี่ผ่านการดึงเชือกและกระตุกเชือก

• ระบบมอเตอร์ ตอบโจทย์กับอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ จะมีรีโมทคอนโทรลในการควบคุม หรือการใช้สมาร์ทโฟนในการสั่งงาน นอกจากสะดวกสบายแล้ว ยังเหมาะกับติดตั้งในบ้านที่มีหน้าต่างสูง ๆ

3. ขนาดของมู่ลี่ที่เหมาะสมกับพื้นที่

มู่ลี่ไม้มีหลายขนาด รวมถึงสามารถสั่งทำตามขนาดหน้าต่างหรือประตูของเราได้ ที่สำคัญเจ้าของบ้านควรวัดขนาดจากความกว้างและความสูงของหน้าต่างให้ดี และควรเผื่อขนาดเพิ่มอีกข้างละประมาณ 5 - 10 ซม. เพื่อให้มู่ลี่ไม้สามารถปิดบังหน้าต่างได้อย่างสวยงาม

4. เลือกดีไซน์และสีของมู่ลี่ไม้

ในปัจจุบันนี้สีของมู่ลี่ไม้มีให้เลือกมากมายทั้งสีอ่อนไปจนถึงสีเข้ม การเลือกใช้สีมู่ลี่ไม้จึงควรเลือกตามความชอบของเจ้าของบ้านเป็นหลัก โดยมีโทนสีมาให้เป็นแนวทางตามด้านล่างนี้

• สีธรรมชาติ (Natural) เป็นโทนสีธรรมชาติ ที่จะช่วยทำให้ห้องดูมีบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าพักผ่อนมากขึ้น ให้ความรู้สึกเป็นกันเองและไม่อึดอัด เหมาะกับการติดตั้งในห้องนั่งเล่น และห้องทานข้าว

• สีเข้ม (Teak, Chocolate, Dark Brown) เป็นโทนสีที่เข้มขึ้นมาจากสีธรรมชาติ จะช่วยให้ห้องดูมีระดับและมีบรรยากาศที่ดูภูมิฐาน เหมาะกับบ้านสไตล์คลาสสิก หรูหรา หรือเหมาะกับห้องที่ใช้ต้อนรับแขก

• สีอ่อน และ สีขาว เป็นโทนสีอ่อนที่จะช่วยให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา แต่ก็แฝงไว้ด้วยความหรูหราเช่นกัน เหมาะกับการตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจ หรือเหมาะกับห้องนอนและห้องทำงาน ที่ต้องการความสบายตา