เลือกลายวอลเปเปอร์ติดผนังยังไง ไม่ให้พลาด
เชื่อว่าหลายคนที่คิดจะติดวอลเปเปอร์ต้องปวดหัวกับการเลือกลายเป็นแน่ พอต้องมาเลือกลายวอลเปเปอร์จริง ๆ ลายที่มีในแค็ตตาล็อคก็หลากหลายจนเลือกไม่ถูก บางทีเลือกมาแล้ว พอติดผนังเข้าจริงกลับรู้สึกว่าเลือกพลาด มาอ่านบทความนี้ เพื่อเป็นการทำการบ้านก่อน BnB home ขอแนะนำวิธีเลือกลายวอลเปเปอร์ติดผนังยังไง ไม่ให้พลาด!!
ว่าด้วยเรื่องโทนสี ในการเลือกวอลเปเปอร์ติดผนัง
1. วอลเปเปอร์สีโทนร้อน (Warm Color)
เช่น แดง ส้ม เหลือง ถ้าใช้สีโทนนี้จะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกร้อน และอยู่ในห้องนั้นได้ไม่นาน แต่ถ้าชอบสีโทนนี้ และอยากใช้จริง ๆ แนะนำให้เลือกติดวอลเปเปอร์สีโทนนี้ในผนังด้านใดด้านหนึ่ง หรือบางส่วนของห้องก็ได้ จะช่วยให้ลดความรู้สึกร้อนลงได้ แถมยังเพิ่มลูกเล่นจากการเล่นสีได้ด้วย
2. วอลเปเปอร์สีโทนเย็น (Cold Color)
เช่น เขียว ฟ้า คราม น้ำเงิน ม่วง เหมาะกับห้องที่ใช้ในการพักผ่อน เช่น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น เพราะสีโทนนี้จะให้ความรู้สึกสงบ
3. วอลเปเปอร์โทนสีกลาง (Neutral Color)
เช่น สีอ่อน อย่างสีครีม สีขาว ไปจนถึงสีเข้ม อย่างสีน้ำตาลช็อกโกแลต และสีเทาชาร์โคล สามารถใช้โทนสีนี้ไปเล่นเลเยอร์กับสีอื่นได้ อาจใช้เล่นเลเยอร์กับสีโทนร้อนก็ได้ หรือไม่ก็สามารถใช้วอลเปเปอร์โทนสีกลางนี้ได้เลย จะทำให้รู้สึกเรียบร้อย อบอุ่น ละมุน และดูสะอาดตา เหมือนสไตล์มินิมอลหรือสไตล์ Scandinavian
4. วอลเปเปอร์โทนสีเดียว (Monotone)
เป็นกันใช้สีหลักสีเดียว แต่มีหลายเฉด ทั้งเข้มและอ่อน หากใช้วอลเปเปอร์สีโทนนี้ จะทำให้ห้องของคุณดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่แอบดูดี มีอะไร แถมด้วยความอบอุ่น และโรแมนติกด้วย
5. วอลเปเปอร์สีตรงกันข้าม (Contrast)
เช่น แดง-เขียว, ส้ม-ฟ้า, เหลือง-ม่วง หากเลือกใช้วอลเปเปอร์คู่สีแบบนี้ จะสร้างความน่าสนใจให้ห้องมากขึ้น แต่เพราะคู่สีที่เลือกใช้นั้น ต้องอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม ถ้าไม่เลือกให้ดีก็อาจจะเป้นความผิดพลาดได้ คนจึงไม่ค่อยนิยมเลือกใช้กัน
6. วอลเปเปอร์สีพาสเทล (Pastel)
สำหรับคนที่อยากให้ห้องดูซอฟ เลือกวอลเปเปอร์โทนสีนี้ได้เลย จะทำให้บรรยากาศในห้องนุ่มนวล หวานแหวว โรแมนติกได้
ว่าด้วยเรื่องลวดลาย ในการเลือกวอลเปเปอร์ติดผนัง
1. วอลเปเปอร์ลายใหญ่
หากเลือกใช้วอลเปเปอร์ลายใหญ่จะทำให้ห้องดูแคบลง จึงไม่เหมาะกับห้องเล็กหรือห้องที่มีผนังแคบ เพราะจะทำให้ดูลายตา หรือถ้าใช้วอลเปเปอร์ทั้งลายใหญ่และยังเป็นสีเข้มอีก แถมยังใช้กับผนังทุกด้าน ห้องนั้นก็จะทั้งดูทึบ และแคบ ให้ความรู้สึกอึดอัด แต่ถ้าชอบลายนั้นจริง ๆ แนะนำให้ใช้ติดกับผนังด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น อาจเป็นฉากหลังโซฟา ฉากหลังทีวี ที่หัวเตียง หรือในส่วนที่ต้องการสร้างความโดดเด่นก็ได้
2. วอลเปเปอร์ลายเล็ก
วอลเปเปอร์ลายเล็ก หรือลายเรียบ ๆ สามารถทำให้ห้องดูกว้างขึ้น เหมาะกับห้องที่มีรายละเอียดเยอะ อย่างห้องที่มีการ Built-in ลายของวอลเปเปอร์จะไม่ไปแข่งกับรายละเอียดของตัวเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่แล้ว ยิ่งถ้าวอลเปเปอร์ทั้งมีลายที่เล็กและสีอ่อน ก็จะช่วยให้ห้องดูกว้าง และสว่าง จะรู้สึกสบายตา
3. วอลเปเปอร์ลายทางหรือลายเส้น
วอลเปเปอร์ลายแบบนี้สามารถใช้แต่งห้องได้ง่าย ถ้าเป็นลายทางยาวจากเพดานถึงพื้น จะเหมาะกับห้องที่มีเพดานเตี้ย ช่วยให้ห้องดูสูงโปร่งขึ้นได้ ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาอยู่ในห้องนั้น หากอยากเพิ่มลูกเล่นโดยการผสมลายวอลเปเปอร์ ก็สามารถทำได้ แต่แนะนำให้หาลายที่เข้ากันได้ หรือหาคู่สีที่เข้ากัน อาจใช้หลักการเลือกสีแบบโทนสีเดียว (Monotone) หรือแบบสีตรงกันข้าม (Contrast) ก็ได้ ห้องของคุณก็จะมีสไตล์มากขึ้น
ขอบคุณภาพจาก Pinterest.com
>> ช้อปวอลเปเปอร์ ได้ทั้งหน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ