ไม่พบรายการที่ท่านค้นหา


ห้องไหนในบ้านที่คุณคิดว่าสกปรกที่สุด

          แน่นอนอยู่แล้ว ที่เราต้องทำความสะอาดบ้านกันอยู่เป็นประจำ แล้วมีห้องไหนหรือส่วนไหนในบ้านที่สกปรก แต่คุณอาจลืมนึกถึงมันบ้างมั้ย? บางทีเราอาจใช้งานมันทุกวัน จนลืมนึกไปก็ได้ ว่ามันสกปรกและเต็มไปด้วยเชื้อโรค BnB home จะบอกให้เอง ว่ามีห้องไหน ส่วนไหนสกปรกบ้าง รวมถึงวิธีจัดการความสกปรกเหล่านั้น

1. ห้องครัวแหล่งสะสมเชื้อโรค

          บางคนอาจคิดว่าห้องน้ำ โถสุขภัณฑ์ หรือถังขยะ เป็นส่วนที่สกปรกที่สุด แต่คุณคิดผิด เพราะห้องที่สกปรกที่สุดในบ้านเป็นห้องครัว และสิ่งที่สกปรกที่สุดทั้งในห้องครัวและในบ้านเลย ต้องยกให้ฟองน้ำที่ใช้ล้างจานชามในครัวนั่นเอง เพราะฟองน้ำถูกเก็บไว้ในที่ที่มีสภาพแวดล้อมอบอุ่นและชื้น ทำให้เป็นที่อยู่ของเชื้อโรคมากมาย และหลังจากใช้ฟองน้ำไปได้ 3 สัปดาห์ ฟองน้ำจะเริ่มมีเชื้อโรคต่าง ๆ เช่น แบคทีเรีย ยีสต์ และรา อาศัยอยู่ถึง 70% เลยทีเดียว ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้จะทำให้อาหารเป็นพิษ และเกิดการท้องร่วงได้ วิธีในการฆ่าเชื้อโรคในฟองน้ำล้างจานง่ายนิดเดียว เพียงชุบฟองน้ำด้วยน้ำสะอาดให้ชุ่ม แล้วนำเข้าอบในไมโครเวฟ ตั้งความร้อนสูงสุด ประมาณ 2 นาที และต้องคอยเฝ้าดูไม่ให้ฟองน้ำแห้งนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดไฟไหม้ได้ แค่นี้ก็สามารถฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในฟองน้ำได้แล้ว นอกจากนี้ เราควรเปลี่ยนฟองน้ำล้างจานใหม่อย่างน้อยทุก 2 สัปดาห์

          อ่างล้างจาน สกปรกเป็นอันดับ 2 รองจากฟองน้ำล้างจาน เพราะเราใช้อ่างล้างจานล้างทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัตว์ ผัก จานชาม ทุกอย่างมีเชื้อโรคปะปนอยู่ทั้งนั้น ทุกครั้งที่ใช้อ่างล้างจานเสร็จเชื้อโรคต่าง ๆ จะยังคั่งค้างอยู่ที่อ่างล้างจาน ฉะนั้น ขั้นตอนสุดท้ายหลังจากที่ล้างทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จ เราต้องล้างอ่างล้างจานทุกครั้ง ด้วยน้ำยาล้างจานและฟองน้ำ แต่ต้องเป็นฟองน้ำคนละอันกับที่ใช้ล้างจานนะคะ จากนั้นให้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคฉีดให้ทั่วอ่าง ทิ้งไว้ซักพัก แล้วราดน้ำตามอีกที

2. ห้องน้ำขยายตัวเชื้อโรคได้ดี

          สำหรับห้องน้ำ สิ่งที่เหมาะกับการขยายตัวของเชื้อโรคได้ เห็นจะเป็นแปรงสีฟัน เมื่อเราใช้แปรงสีฟันเสร็จ ขนแปรงก็จะเปียกชื้น แถมวางไว้อยู่ในห้องน้ำที่มีสภาพแวดล้อมที่ชื้นอยู่แล้วด้วย และยิ่งถ้าวางใกล้ชักโครกด้วยแล้ว หากกดน้ำ ละอองสิ่งสกปรกก็จะกระเด็นมาติดที่ขนแปรงได้ อีกทั้งยังมีเศษอาหาร น้ำลาย คราบยาสีฟันที่ยังหลงเหลือติดอยู่ที่แปรงสีฟัน และนี่เป็นวิธีการลดเชื้อแบคทีเรียไม่ให้สะสมที่แปรงสีฟัน คือ ไม่วางแปรงสีฟันใกล้ชักโครก ไม่ใช้แปรงสีฟันร่วมกับคนอื่น ควรล้างแปรงสีฟันด้วยน้ำก๊อก หลังแปรงเสร็จทุกครั้ง เพื่อให้คราบสกปรกและยาสีฟันที่ตกค้างหลุดออก แล้ววางตั้งตรงให้ขนแปรงถูกอากาศพัดให้แห้ง ไม่เก็บแปรงสีฟันในกล่องที่ปิด หากมีแปรงหลายอันควรวางแต่ละอันห่างกันอย่างน้อย 1 นิ้ว เปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุก 3-4 เดือน และควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกครั้งหลังเป็นหวัด

          อีกทั้ง ก๊อกน้ำก็เป็นแหล่งขายตัวของเชื้อโรคได้ง่าย ด้วยการสัมผัสด้วยมือ บางคนอาจคิดไม่ถึงว่าก๊อกน้ำสกปรกด้วยหรอ ในเมื่อเราล้างมือสะอาดด้วยก๊อกน้ำแล้ว โดยอาจลืมนึกไปว่าเราใช้มือที่สกปรกเปิดก๊อกน้ำก่อนที่จะล้างมือ พอล้างมือเสร็จเราก็ไปสัมผัสกับก๊อกน้ำที่สกปรกอีกครั้ง ฉะนั้น เราควรทำความสะอาดก๊อกน้ำทุกวัน ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อไปเช็ดทำความสะอาด

3. ห้องทำงานเพาะพันธุ์เชื้อโรค

          คุณทำความสะอาดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้กันทุกวันบ้างหรือเปล่า แป้นพิมพ์ถือเป็นที่ที่ดึงดูดเชื้อโรคที่นึงเลย เพราะไม่รู้มือเราไปหยิบจับอะไรมาบ้าง แล้วเอามาสัมผัสกับแป้นพิมพ์ อีกทั้งบางคนกินอาหาร กินขนมตอนทำงาน พวกเศษอาหารก็ตกลงไปในช่องว่างระหว่างแป้นพิมพ์ สิ่งสกปรกก็หมักหมม ทำให้เป็นที่เพาะพันธุ์เชื้อโรคได้ รู้แบบนี้แล้ว รีบปิดคอมพิวเตอร์ และถอดปลั๊ก จากนั้นใช้เครื่องเป่าลม เป่าให้เศษฝุ่นและสิ่งสกปรกออกมาจากช่องว่าของแป้นพิมพ์ หรือใช้ไม้สำลีปั่นหูเขี่ยเศษสิ่งสกปรกออกมาก็ได้ จากนั้นใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดแป้นพิมพ์ให้เรียบร้อย ควรทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อป้องการการสะสมและเพาะพันธุ์ของเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ อีกวิธีคือ แนะนำให้พยายามล้างมือบ่อย ๆ หลาย ๆ ครั้งก่อนและหลังใช้คีย์บอร์ด และไม่ควรเอาอาหารหรือขนมมานั่งกินขณะทำงาน จะได้ป้องกันเศษอาหารหล่นลงไปตามซอกหลืบแป้นพิมพ์ได้อีกทาง

4. ห้องนั่งเล่นก็สะสมสิ่งสกปรก

          พวกอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น รีโมทคอนโทรล ปุ่มสวิชต์ต่าง ๆ ภายในบ้าน หากเราสัมผัสสิ่งเหล่านี้หลาย ๆ ครั้งเข้า โดยที่ไม่ได้ทำความสะอาด ก็สามารถทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ โดยที่เราไม่ทันได้สังเกต เชื้อโรคจะแพร่ไปสู่คนอื่น ๆ ในบ้านได้ ด้วยการใช้รีโมทคอนโทรลร่วมกัน หรือการผลัดกันไปกดสวิชต์เปิด-ปิดไฟ ดังนั้น ควรทำความสะอาดพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ร่วมกันหลายคนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำยาเช็ดทำความสะอาดหรือชุบแอลกอฮอล์ แล้วนำไปเช็ดตามอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ร่วมกันหลายคน ตามด้วยใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกรอบ

5. อย่าลืมบริเวณของสัตว์เลี้ยง

          จานชาม และของเล่นของสัตว์เลี้ยง เป็นอีกจุดสกปรก ที่มักเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดเชื้อโรคชนิต่าง ๆ สะสมอยู่ จึงควรล้างจานชามของสัตว์เลี้ยงเป็นประจำทุกวันด้วยน้ำสบู่และล้างด้วยน้ำร้อน ส่วนของเล่นของสัตว์เลี้ยงถ้าเป็นแบบแข็ง ให้ล้างด้วยน้ำสบู่ เพื่อฆ่าเชื้อโรค แล้วเอาไปตากให้แห้ง หรือถ้าเป็นของเล่นแบบอ่อน สามารถนำไปซักทำความสะอาดในเครื่องซักผ้าได้ โดยทำความสะอาดเป็นประจำทุกเดือน

 

• ช้อปอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก

 

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

อย่านิ่งนอนใจ!!! คุณควรซักผ้าขนหนูบ่อยแค่ไหน

มองไม่เห็น ใช่ว่าจะไม่มี!! กำจัดไรฝุ่นบนที่นอน สาเหตุโรคภูมิแพ้

สินค้าแนะนำ