รวมวิธีดูแลรักษาสวน ช่วงหน้าฝน
อาจมีบางคนเข้าใจผิดว่าหน้าฝนที่ชุ่มฉ่ำ จะทำให้ต้นไม้สดชื่นและเขียวขจี ...เป็นความเข้าใจที่ผิด จริง ๆ แล้วเมื่อเข้าหน้าฝน ควรดูแลสวนที่บ้านคุณเป็นพิเศษ เนื่องจากปัญหามากมายที่จะเกิดขึ้นกับสวนสวยของคุณ เช่น น้ำฝนที่ชุ่มฉ่ำเกินไป อาจทำให้รากเน่า ต้นไม้เฉาตายได้ หรือต้นไม้อาจเจริญเติบโตเร็วจนเกินไป ทำให้เป็นหญ้ารกก็ได้ค่ะ
BnB home จึงรวบรวมวิธีดูแลรักษาสวน ช่วงหน้าฝน มาให้ในบทความนี้
1. ไม่ปล่อยให้น้ำขังโคนต้นไม้
หากน้ำขังอยู่ที่โคนต้นไม้หรือที่แปลงต้นไม้ จะทำให้รากเน่า ต้นไม้เฉาตายได้ ฉะนั้น มี 2 เรื่องที่ต้องดูแลคือ ดูแลดิน พรวนดินให้ร่วนซุยเป็นประจำ เพื่อให้ดินไม่เกาะตัวกันแน่นจนอุ้มน้ำ จนน้ำท่วมขังอยู่ในดิน หรือควรปรับผิวดินบริเวณโคนต้น ด้วยการใช้ทรายหยาบหรือขี้เถ้าแกลบมาพรวนผสมกับดิน ให้ดินร่วนขึ้น มีช่องว่างให้น้ำซึมลงได้ลึก ให้น้ำได้ไหลระบายออกจากโคนต้นให้เร็วที่สุด เรื่องที่ 2 ที่ต้องดูแลคือ ดูแลระบบระบายน้ำ ให้ขุดทางระบายน้ำในสวนเพิ่ม โดยขุดดินให้เป็นร่องเล็ก ๆ ตามขอบสนามหญ้าต่อไปยังท่อระบายน้ำ เพื่อช่วยให้น้ำระบายได้เร็วขึ้น สุดท้าย หมั่นตรวจดูท่อระบายน้ำกวาดเศษดิน เศษใบไม้ หรือเศษขยะออกไม่ให้อุดตันท่อระบายน้ำ
2. ถอนรากถอนโคนวัชพืช
วัชพืชที่แห้งตายไปแล้วในช่วงที่แดดแรงตอนหน้าร้อน อาจกลับมาเติบโตอีกครั้งตอนหน้าฝนที่ชุ่มฉ่ำได้ และวัชพืชเหล่านั้นก็จะมาแย่งอาหารและแสงแดดของต้นไม้ที่เราเลี้ยง ทำให้ต้นไม้ของเราอ่อนแอ เหี่ยวเฉาลงไปได้ ตลอดจนเป็นแหล่งสะสมเชื้อราและโรคพืชได้อีกด้วย หากเจอวัชพืชขึ้นมาแซมกับต้นไม้ของเราเมื่อไหร่ ให้รีบถอนทิ้งให้หมดทั้งรากทั้งโคน และนำไปทิ้งให้ไกลจากบริเวณสวน เพื่อป้องกันไม่ให้วัชพืชกลับมาเติบโตได้อีก และควรกำจัดทิ้งตั้งแต่ยังมีน้อย ไม่ปล่อยให้วัชพืชลามจนทั่วสวน เพราะจะกำจัดยากและเสียค่าใช้จ่ายสูง
3. ฉีดพ่นยาป้องกันโรคพืชให้สวน
ความชื้นของหน้าฝน ทำให้พวกเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียเติบโตและแพร่กระจายได้รวดเร็ว ดอกไม้ ต้นไม้ในสวนก็จะติดโรคได้ง่ายขึ้น จึงควรฉีดพ่นยาป้องกันโรคพืชให้สวนคุณ และควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อทั้งตัวเราและต้นไม้
4. ใส่ปุ๋ยให้ถูกวิธี
ในหน้าฝน ต้นไม้จะได้รับน้ำเต็มที่จากฝน จนทำให้ต้นไม้โตไวอยู่แล้ว อาจไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยอีกก็ได้ แต่หากจำเป็นต้องใช้จริง ๆ หรือกลัวว่าต้นไม้จะขาดสารอาหาร เมื่อใส่ปุ๋ยแล้วให้พรวนดินรอบโคนต้นไม้ ปุ๋ยจะได้ลงไปอยู่ในดิน เพื่อไม่ให้น้ำฝนที่ตกลงมาชะล้างปุ๋ยทิ้งไปหมด และแนะนำให้หลีกเลี่ยงปุ๋ยเคมี หันมาใช้ปุ๋ยหมักแทน เพราะหากฝนตก น้ำฝนจะชะล้างปุ๋ยไปตามดิน หากใช้ปุ๋ยเคมี อาจทำให้ไส้เดือนที่ช่วยพรวนดินให้ต้นไม้ และจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์กับต้นไม้ ได้รับสารเคมีที่ชะมากับน้ำและตายได้ ซึ่งจะส่งผลกับดินในอนาคต
5. ตัดแต่งกิ่งก้านต้นไม้ให้เรียบร้อย
นอกจากเรื่องน้ำมากทำให้รากต้นไม้เน่า เฉาตายในหน้าฝนแล้ว ยังมีเรื่องลมพายุแรง จนทำให้ต้นไม้หักโค่นอีกด้วย ซึ่งเป็นเหตุให้บ้านเกิดความเสียหายหรืออาจเกิดอันตรายกับคนได้ จึงแนะนำให้ตัดแต่งกิ่งก้านต้นไม้ให้เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนเข้าหน้าฝนทุก ๆ ปี แต่ถ้าบ้านไหนที่ไม่ได้เตรียมตัดแต่งกิ่งใบให้ต้นไม้ไว้ก่อน ก็สามารถลงมือตัดแต่งได้เลย ในช่วงที่ฝนยังไม่ตก นอกจากเรื่องความปลอดภัยของคนและบ้านแล้ว การตัดแต่งกิ่งก้านต้นไม้ให้โปร่งขึ้น ยังช่วยให้ต้นไม้ของคุณปลอดภัยจากโรคและแมลงต่าง ๆ ที่จะมาอาศัยตามกิ่งใบที่รกทึบอีกด้วย
6. ต้นไม้ใหม่ ต้องค้ำยันให้ดี
ต้นไม้ใหม่ที่เอามาปลูกลงดิน ส่วนมากจะเป็นต้นไม้ที่ขุดล้อมรากขึ้นมา รากจึงยังเดินไม่ไกล ยังยึดเกาะดินไม่แน่นพอ และพยุงลำต้นเองยังไม่ได้ เมื่อฝนตกแล้วทำให้ดินนุ่ม ชุ่มน้ำ บวกกับเจอลมแรงด้วย ต้นไม้ก็อาจโอนเอน หรือโค่นล้มลง จนไปทำลายระบบรากที่กำลังแตกออก ทำให้การเจริญเติบโตของต้นไม้ต้องหยุดชะงัก ดังนั้น การค้ำยันต้นไม้จึงช่วยพยุงและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับต้นไม้ได้ นอกจากนี้ อย่าลืมหมั่นตรวจสอบไม้ค้ำว่ายังคงความแข็งแรงอยู่ ไม่เปราะ กร่อน จากปลวกกินไม้ หรือไม่กร่อนจากน้ำฝนกัดเซาะ
7. เตรียมอุปกรณ์ทำสวนไว้ให้พร้อม
หยิบเอาอุปกรณ์ทำสวนออกมาตรวจเช็ค ทำความสะอาดให้พร้อมใช้งาน หน้าฝนอุปกรณ์ทำสวนอาจชื้นหรือเป็นสนิมได้ง่าย ควรหาวิธีดูแลรักษา และหมั่นตรวจสอบให้ดี เช่น อุปกรณ์ทำสวนที่สามารถเป็นสนิมได้ ให้ใช้น้ำมันหล่อลื่นเช็ดเป็นประจำ บัวรถน้ำที่น้ำขังได้ ให้คว่ำเก็บป้องกันยุงเพาะพันธุ์ กระสอบปุ๋ย ควรหาที่เก็บในที่ร่มให้เรียบร้อย เป็นต้น
>> ช้อปอุปกรณ์งานสวน ได้ที่หน้าร้าน และออนไลน์ คลิก
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
บ้านน้ำรั่วซึม บ้านชื้น ช่วงหน้าฝน ซ่อมแซมยังไงดี
แนะนำพรรณไม้จัดสวนแนวตั้ง สำหรับบ้านพื้นที่จำกัด
