อยากติดตั้งอ่างอาบน้ำ ต้องรู้อะไรบ้าง
การแช่น้ำเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ผ่อนคลายจากความเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า บางคนจึงมีความคิดว่าอยากติดตั้งอ่างอาบน้ำเพิ่มในห้องน้ำเดิม แต่อาจจะไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน ต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง และมีเรื่องสำคัญอะไรให้ต้องพิจารณาก่อนบ้าง BnB home เอาความรู้มาฝากกันในบทความนี้แล้ว
อับดับแรกต้อง สำรวจพื้นที่ติดตั้งอ่างอาบน้ำ ก่อนครับ
เพราะบ้างบ้านมีพื้นที่จำกัดอย่างทาวน์เฮ้าส์ คอนโด ก็จะมีข้อจำกัดในการติดตั้งและมีเงื่อนไขในการเลือกซื้ออ่างอาบน้ำอยู่เหมือนกัน ซึ่งหากห้องน้ำมีขนาดเล็ก พื้นที่ที่เหมาะกับการวางอ่างอาบน้ำจะเป็นพื้นที่ตรงฝักบัวอาบน้ำเดิม วัดขนาดพื้นที่ตรงที่จะเอาอ่างอาบน้ำไปวาง แล้วไปเลือกอ่างอาบน้ำที่เหมาะสมกับขนาดพื้นที่นั้น โดยขนาดของอ่างอาบน้ำที่มีความกว้างน้อยที่สุดอยู่ที่ประมาณ 70 เซนติเมตร และความยาวน้อยที่สุดประมาณ 155 เซนติเมตร
เมื่อทราบพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งอ่างอาบน้ำแล้ว ก็ถึงขั้นตอนการเลือกอ่างอาบน้ำแล้วครับ ซึ่งอ่างอาบน้ำก็มีหลากหลายรูปแบบที่ต้องศึกษาก่อนที่จะเลือกซื้อ ดังนี้
เลือกรูปแบบอ่างอาบน้ำที่เหมาะสม
- อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว
เป็นอ่างอาบน้ำที่วางตั้งบนพื้น บางยี่ห้อหรือบางรุ่นอาจมีขาตั้งยกให้อ่างอาบน้ำลอยขึ้นจากพื้น ให้อารมณ์คล้าย ๆ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ประดับห้องน้ำอีกชิ้นหนึ่ง ให้อารมณ์หรูหรา ทันสมัย มีรูปทรงให้เลือกหลากหลาย ติดตั้ง ซ่อมแซม และทำความสะอาดได้ง่าย
- อ่างอาบน้ำแบบฝัง
อ่างอาบน้ำแบบนี้จะเหมาะกับห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัด การติดตั้งก็มีความยุ่งยากมากกว่าอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว ต้องมีการรื้อกระเบื้องปูพื้นในบริเวณที่จะติดตั้งออก เพราะทั้งน้ำหนักอ่างอาบน้ำ, น้ำ, คน และปูนที่ก่อ อาจทำให้กระเบื้องแตกได้ อีกทั้งยังต้องมีการก่อปูนยกสูงจากพื้นเพิ่มเติม เพื่อเป็นฐานรองอ่างอาบน้ำอีกด้วย
เลือกรูปทรงอ่างอาบน้ำที่ชอบ
เมื่อเลือกรูปแบบของอ่างอาบน้ำได้แล้ว ต่อไปมาดูที่รูปทรงของอ่างอาบน้ำกัน มีทั้งอ่างอาบน้ำทรงสี่เหลี่ยม เป็นทรงที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย อ่างอาบน้ำทรงกลม รูปร่างโค้งมนของอ่างอาบน้ำจะช่วยให้ห้องน้ำที่เป็นห้องสี่เหลี่ยมอยู่แล้วดูสมูธขึ้น และอ่างอาบน้ำทรงเข้ามุมจะช่วยเพิ่มมิติให้กับห้องน้ำได้ ซึ่งจะเลือกรูปทรงแบบไหนขึ้นอยู่กับความชอบ และความเข้ากันกับดีไซน์การแต่งบ้านเลย ที่สำคัญอย่าลืมเรื่องขนาดของพื้นที่ที่จะติดตั้งด้วย
เลือกประเภทอ่างอาบน้ำที่ต้องการ
อ่างอาบน้ำมี 2 ประเภท คือ อ่างอาบน้ำธรรมดา และอ่างอาบน้ำวน หลัก ๆ แล้วจะแตกต่างกันที่ลักษณะการใช้งาน ซึ่งอ่างอาบน้ำธรรมดานั้น เน้นไปที่การแช่น้ำเพื่อผ่อนคลาย แต่อ่างอาบน้ำวน หรืออ่างจากุซซี่ (Jacuzzi) จะมีระบบอัดอากาศ ทำให้สามารถปล่อยอากาศออกมาจากตัวอ่างและเกิดน้ำวน ซึ่งจะเป็นเหมือนเครื่องนวดตัว เพื่อคลายความเหนื่อยล้า แต่อ่างอาบน้ำวนจะมีราคาสูงและมีขนาดใหญ่กว่าอ่างอาบน้ำแบบปกติ
อ่างอาบน้ำมีวัสดุที่เหมาะสมและทนทาน
- อ่างอาบน้ำอะคริลิก
เป็นวัสดุที่นิยมทำอ่างอาบน้ำมากที่สุด เพราะมีความแข็งแรง ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี มีน้ำหนักเบา และดูแลทำความสะอาดง่าย อีกทั้งอ่างอาบน้ำที่ทำจากอะคริลิกยังมีหลากหลายรูปทรงและสีสันให้เลือกใช้
- อ่างอาบน้ำไฟเบอร์กลาส
มีรูปทรงให้เลือกหลากหลาย มีน้ำหนักเบา ราคาไม่แพง และความแข็งแรงจะน้อยกว่าอ่างอาบน้ำที่ทำจากอะคริลิก
- อ่างอาบน้ำพอร์ซเลน
เป็นวัสดุที่มีผิวมัน จึงทำให้ดูสวยงาม มีความแข็งแรง ทนทานมากเป็นพิเศษ แต่ปัจจุบันเริ่มไม่นิยมเลือกใช้กันเท่าไหร่แล้ว เพราะอ่างอาบน้ำที่ทำจากพอร์ซเลนมีน้ำหนักมาก และราคาค่อนข้างสูง
- อ่างอาบน้ำที่ผลิตจากวัสดุอื่น ๆ
เช่น ทองเหลือง ทองแดง หินอ่อน ไม้ เป็นอ่างอาบน้ำที่ออกแบบมาเพื่อตกแต่งห้องน้ำให้ดูสวยงาม ไม่เหมาะกับการนำมาใช้งานจริง เพราะดูแลรักษาค่อนข้างยาก อีกทั้งยังราคาสูงด้วย
เมื่อเลือกอ่างอาบน้ำในแบบที่ต้องการได้แล้ว ถัดมาต้อง คำนวนเรื่องการรับน้ำหนักของโครงสร้าง
เพราะทั้งน้ำหนักของอ่างอาบน้ำรวมกับน้ำหนักของน้ำที่เต็มอ่างจะมีน้ำหนักมาก ซึ่งตามกฎหมายการรับน้ำหนักบรรทุกจร*ขั้นต่ำของพื้นบ้านพักอาศัยอยู่ที่ 150 กิโลกรัม / ตารางเมตร วิธีคิดง่าย ๆ ว่าพื้นบ้านจะสามารถรับน้ำหนักได้หรือไม่ โดยการใช้น้ำหนักรวมของอ่างอาบน้ำ (น้ำหนักของอ่างอาบน้ำ + น้ำหนักของน้ำที่ใส่เต็มอ่าง + น้ำหนักคนที่จะแช่ในอ่าง) หารด้วยพื้นที่ของอ่างอาบน้ำ แล้วดูว่าหนักเกินค่าการรับน้ำหนักของพื้นบ้านตามกฎหมายหรือไม่ ถ้าน้ำหนักเกินอาจจะต้องมีการเสริมโครงสร้างเพื่อให้สามารถรับน้ำหนักเพิ่มได้ ข้อนี้ควรดูแบบโครงสร้างของบ้าน และปรึกษาวิศวกรก่อน
• ช้อปอ่างอาบน้ำ ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ