3 วิธีเลือกหลอดไฟไปทำบุญ

          เมื่อถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ชาวพุทธมักเข้าวัดทำบุญกัน เราขอเสนอให้ทำบุญด้วยหลอดไฟ อานิสงค์ที่ได้จากการถวายแสงสว่างนี้ คือเป็นแสงนำทางให้เราได้เกิดปัญญา คลี่คลายปัญหาต่าง ๆ จากร้ายให้กลายเป็นดี ให้ความสว่างไสวรุ่งเรือง ด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ แต่เอ้...ควรเลือกหลอดไฟแบบไหนดีล่ะ BnB home มีวิธีเลือกหลอดไฟไปทำบุญมาฝาก

1. เลือกหลอดไฟแบบที่ประหยัดและคุ้มค่าที่สุด

          เพื่อให้ทางวัดได้ใช้หลอดไฟที่เราถวายอย่างคุ้มค่าและประหยัดที่สุด แนะนำให้เลือกหลอดไฟ LED เพราะอายุการใช้งานนานกว่าหลอดไฟแบบอื่น ๆ แถมยังประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไฟแบบไส้ถึง 90% และประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดตะเกียบถึง 40% มีอายุการใช้งานมากกว่าหลอดไฟแบบไส้ถึง 15 เท่าอีกด้วย

2. เลือกโทนสีของแสงจากหลอดไฟให้เหมาะกับการใช้งาน

(ภาพจาก: westinghouselighting.com)

          โดยทั่วไปแล้ว แสงของหลอดไฟมีให้เลือก 3 โทนสี สามารถดูที่ข้างกล่องหลอดไฟได้เลย จะมีดังนี้ DL, CW, WW ซึ่งแต่ละโทนมีพื้นฐานมาจากสีของท้องฟ้าในแต่ละช่วง ค่าอุณหภูมิสีมีหน่วยเป็น Kelvin (K) มีตั้งแต่ 1,000-10,000 K ถ้าค่าน้อย แสงที่ออกมาจะเป็นสีโทนเหลืองอมส้ม แต่ถ้ายิ่งค่ามากขึ้น แสงก็จะยิ่งขาวขึ้น ไปจนขาวอมฟ้าเลย

          - WarmWhite (WW): มีอุณหภูมิสีที่ 2,000-3,000 K แสงออกโทนสีเหลืองอมส้ม ไปจนถึงขาวอมเหลือง แสงโทนนี้เหมาะสำหรับการสร้างบรรยากาศให้รู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย มักใช้ในร้านสปา ร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือโรงแรม แต่ถ้าใช้ในบ้าน ก็อาจจะใช้ในห้องน้ำ หรือห้องนอน เป็นต้น

          - CoolWhite (CW): มีอุณหภูมิสีที่ 4,000-5,000 K แสงเริ่มออกเป็นโทนสีขาว เป็นสีโทนเย็น ใช้โทนนี้แล้วจะรู้สึกสบายตา แสงที่ได้จะทำให้วัตถุดูสดใส คมชัดและเข้มข้นขึ้น จึงนิยมใช้หลอดไฟโทนสีนี้ในร้านค้า เพื่อให้สินค้าดูน่าซื้อ แต่ถ้าใช้หลอดไฟโทนสีนี้ในบ้าน สามารถใช้ได้ในห้องทานข้าว ห้องรับแขก ห้องทำงาน ที่จอดรถก็ได้

          - DayLight (DL): มีอุณหภูมิสีที่ 6,000 K แสงออกโทนสีขาวอมฟ้า เป็นแสงที่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติในตอนกลางวัน เป็นโทนที่นิยมใช้กัน เพราะแสงจากหลอดไฟที่สะท้อนวัตถุจะไม่เพี้ยนหรือไม่หลอกตา สามารถใช้ได้กับทุกที่ที่ต้องการแสงสว่าง ทั้งภายนอกและภายในอาคาร นิยมใช้ในบ้านเรือน สำนักงาน หรือโรงงานอุตสาหกรรม

          เพราะฉะนั้น โทนสีของแสงจากหลอดไฟที่น่าจะเหมาะกับการใช้งานในวัด ควรเป็นหลอดไฟแบบ CoolWhite (CW) และ DayLight (DL) เพื่อให้ได้แสงที่ส่องสว่างเพียงพอ

3. เลือกขั้วหลอดไฟให้ตรงกับที่ใช้อยู่

          ชนิดของขั้วหลอดไฟก็สำคัญ ถ้าเราซื้อไปไม่ตรงกับแท่นขั้นที่มีอยู่แล้ว ก็ใช้ไม่ได้เลย เราจึงต้องดูก่อนซื้อ ซึ่งโดยปกติ ขั้วหลอดไฟที่นิยมใช้กันมีแบบ E27 E14 (ขั้วเกลียว) T8 (ขั้วหลอดฟลูออเรสเซนต์)

>> ช้อปหลอดไฟ ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ไม่รู้เรื่องหลอดไฟ จะเลือกซื้ออย่างไรดี

หลอดไฟ LED กินไฟน้อยลงแต่สว่างมากขึ้น