ตู้เย็น 2 ประตูกับ 1 ประตูต่างกันอย่างไร
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับทุกบ้าน ซึ่งตู้เย็นก็มีหลายแบบและหลายความจุให้เลือกมากมาย ใครที่กำลังลังเลว่าจะเลือกซื้อตู้เย็นแบบไหนดี บทความนี้ BnB home จะเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างตู้เย็น 2 ประตู กับตู้เย็น 1 ประตู เพื่อเป็นข้อให้คุณนำไปพิจารณาว่าบ้านคุณเหมาะกับตู้เย็นแบบใดกันครับ
เทียบความแตกต่างของตู้เย็น 1 ประตู และ 2 ประตู
1. ขนาดที่แตกต่าง
ขนาดของตู้เย็น ใช้การคำนวณจากความจุของเนื้อที่ภายในตู้เย็น ที่เรียกว่า ‘คิว’ (คำว่าคิว มาจาก cubic foot/feet หมายถึง ลูกบาศก์ฟุต) ซึ่งตู้เย็นจุ 100 ลิตร จะเท่ากับ 3.53 คิว โดยปกติแล้วตู้เย็น 1 ประตูจะมีความจุเริ่มต้นที่ 3 คิว และตู้เย็น 2 ประตูจะมีความจุเริ่มต้นที่ 6 คิวจนถึงประมาณ 20 คิว
2. ฟังก์ชั่นการใช้งาน
ความต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างตู้เย็นทั้ง 2 แบบ ก็คือการแบ่งช่องแช่เย็นกับช่องแช่แข็ง ตู้เย็น 1 ประตูจะมีประตูเล็ก ๆ แยกช่องแช่แข็งอยู่ภายใน ส่วนตู้เย็น 2 ประตูจะแยกช่องแช่เย็นธรรมดา และช่องแช่แข็งออกจากกัน ด้วยประตูเปิดปิดภายนอก ซึ่งมีข้อดีตรงที่ประหยัดพลังงาน ทำให้เครื่องสามารถทำความเย็นได้ดีกว่า นอกจากนั้นยังมีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ ซึ่งต่างจากตู้เย็น 1 ประตู ที่ผู้ใช้ต้องกดละลายน้ำแข็งเอง
สินค้าแนะนำ
ตู้เย็น 2 ประตู BEKO รุ่น RDNT200I50S ขนาด 6.5 คิว สีเงิน
ตู้เย็น 1 ประตู TOSHIBA รุ่น GR-D189SB ขนาด 6.4 คิว สีน้ำเงิน
ตู้เย็น 2 ประตู TOSHIBA รุ่น GR-RT325WE-PMT(06) ความจุ 8.8 คิว สีเทา
ตู้เย็น 1 ประตู TOSHIBA รุ่น GR-D148BM ความจุ 5.2 คิว สีฟ้า
ตู้เย็นแบบไหนเหมาะกับใคร เลือกอย่างไรดี
แน่นอนอยู่แล้วว่าตู้เย็น 1 ประตูที่มีขนาดความจุค่อนข้างน้อย เหมาะสำหรับบ้านที่อาศัยอยู่ 1 - 2 คน และไม่ได้ใช้งาน หรือเปิดปิดตู้เย็นบ่อย ๆ เพราะข้อด้อยอีกอย่างของตู้เย็นประเภทนี้ก็คือ การที่เปิดปิดบ่อย ๆ ทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก นอกจากนั้นอาจทำให้ช่องแช่แข็งเกิดน้ำแข็งเกาะบ่อย เพราะอากาศจากภายนอกที่เข้าไปได้ง่าย
ในส่วนของตู้เย็น 2 ประตูนั้น ปกติแล้วจะมีขนาดเริ่มต้นที่ 5.9 คิว ซึ่งจะเป็นความจุสำหรับสมาชิกในครอบครัว 3 คน และหากเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิก 4 - 6 คน ควรเลือกที่ขนาด 6 - 10 คิว และถ้ามีสมาชิก 6 คนขึ้นไปแนะนำเป็น 12 - 15 คิว
จุดเด่นของตู้เย็น 2 ประตู
- มีขนาดความจุที่มากเพียงพอสำหรับบ้านที่มีสมาชิกหลายคนหรือมีการใช้งานที่เยอะ
- มีฟังก์ชั่นการใช้งานให้เลือกมากกว่า เช่น ช่องทำน้ำแข็งอัตโนมัติ, ระบบทำความเย็นที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้, ระบบทำความเย็นที่ช่วยประหยัดพลังงาน, ระบบจัดการความชื้นภายในที่จะช่วยลดกลิ่นอับขจัดแบคทีเรีย เป็นต้น
- มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ ไม่มีน้ำแข็งเกาะในห้องแช่แข็ง และทำน้ำแข็งได้เร็วกว่าตู้เย็นแบบ 1 ประตู
- มีเทคโนโลยีคอมเพรสเซอร์และอินเวอร์เตอร์ที่ช่วยเรื่องการทำความเย็นที่เร็วกว่าและเงียบกว่ารวมถึงประหยัดพลังงานมากกว่าตู้เย็นแบบประตูเดียว
ตู้เย็น 2 ประตูกินไฟเท่าไร
ถึงแม้จะถูกใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง แต่ตู้เย็นก็ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟน้อย เมื่อเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ
- ตู้เย็น 2 ประตู ขนาด 7 - 10 คิว (70 - 175 วัตต์) กินไฟชั่วโมงละ 28 - 58 สตางค์ ซึ่งน้อยกว่าทีวี LED 55 นิ้ว เสียอีก
- ตู้เย็น 2 ประตู ขนาด 12 คิว (240 วัตต์) กินไฟชั่วโมงละ 0.96 บาท หรือ ตกวันละ 23.04 บาทเท่านั้น
ข้อคำนึงถึงอื่น ๆ ในการเลือกและใช้งานตู้เย็น 2 ประตูให้คุ้มและประหยัดไฟมากที่สุด
- เลือกตู้เย็นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- เลือกตำแหน่งวางตู้เย็นในบริเวณที่แสงส่องไม่ถึง เนื่องจากความร้อนอาจทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก
- ไม่ควรวางตู้เย็นให้ติดผนังจนเกินไป ทั้งด้านข้างและด้านหลังควรห่างจากผนังอย่างน้อย 10 เซนติเมตร ปรับตั้งอุณหภูมิตู้เย็นให้เหมาะสมกับปริมาณของที่แช่ในตู้เย็น
>> ช้อปตู้เย็น ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
