ปั๊มน้ำสำหรับบ้าน เลือกใช้แบบไหนดี
ก่อนหน้านี้ BnB home เคยแนะนำการเลือกซื้อถังเก็บน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งานกันไปแล้ว คราวนี้ก็เลยอยากจะแนะนำการเลือกซื้อปั๊มน้ำสำหรับใช้ที่อาคารบ้านเรือนกันบ้าง บ้านไหน อาคารไหนที่จำเป็นต้องใช้น้ำพร้อมกันหลายจุด แล้วเกิดปัญหาน้ำไหลค่อย ไหลเอื่อย เป็นเพราะแรงดันน้ำไม่พอ การเลือกใช้ปั๊มน้ำที่เหมาะสมกับที่พักอาศัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำใช้ตามต้องการในจุดต่าง ๆ
ปั๊มน้ำขนาดไหนเหมาะสุด
ก่อนที่จะรู้ว่าปั๊มน้ำขนาดไหนเหมาะกับบ้าน จำเป็นต้องรู้ข้อมูลปริมาณการใช้น้ำภายในบ้านเบื้องต้นก่อนค่ะ
1. จุดที่ต้องใช้น้ำที่อยู่สูงที่สุดอยู่ที่ชั้นไหน เพื่อบอกระยะความสูงที่จะต้องส่งน้ำไปถึง ซึ่งโดยทั่วไปความสูงของแต่ละชั้นจะอยู่ที่ประมาณ 3.5 เมตร ตัวอย่างเช่น บ้าน 2 ชั้น ระยะส่งน้ำ อยู่ที่ 7 เมตร
2. โอกาสที่จะใช้น้ำพร้อม ๆ กันมีกี่จุด คิดเป็นปริมาณการใช้น้ำกี่ลิตร/ นาที ซึ่งปกติก๊อกน้ำจะมีอัตราการจ่ายน้ำประมาณ 9 ลิตร/ นาที สามารถใช้ค่านี้ไปคำนวนคร่าว ๆ ได้ แต่หากจะให้แม่นยำมากขึ้น อาจต้องหาอัตราการจ่ายน้ำของอุปกรณ์แต่ละประเภทแบบเฉพาะเจาะจงไปเลย เพราะอุปกรณ์แต่ละประเภทมีปริมาณการจ่ายน้ำไม่เท่ากัน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากฉลากที่ติดมากับอุปกรณ์ค่ะ ตัวอย่างการคิดคำนวณ
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
- ห้องน้ำ 2 ห้อง มีเครื่องทำน้ำอุ่น 2 ตัว (ห้องละ 1 เครื่อง)
- ครัวมี ก๊อกน้ำ 3 จุด
- เครื่องซักผ้า 1 เครื่อง
- ก๊อกสำหรับรดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน 1 จุด
- ก๊อกสำหรับล้างรถ 1 จุด
โอกาสที่จะใช้น้ำพร้อมกันเป็นวันหยุด สุดสัปดาห์ คือ ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นอาบน้ำพร้อมกัน 2 จุด, ล้างจานในครัว 1 จุด, รดน้ำต้นไม้ 1 จุด, ล้างรถ 1 จุด รวมเป็น 5 จุด สูตรการคำนวนหาปริมาณการใช้น้ำคือ ค่าเฉลี่ยปริมาณการจ่ายน้ำของอุปกรณ์แต่ละประเภท x จำนวนจุดที่มีการใช้น้ำพร้อมกัน จะได้เป็น 9 x 5 = 45 ลิตร/ นาที
3. ดูว่าบ้านหรืออาคาร ที่พักอาศัย มีกี่ชั้น เพื่อจะได้ทราบจำนวนวัตต์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน นี่เป็นแนวทางง่าย ๆ ในการเลือกปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน ซึ่งทางผู้ผลิตปั๊มน้ำได้คิดคำนวณมาให้แล้ว มากจากการประมาณอัตราการใช้น้ำของอาคาร ที่พีกอาศัยแต่ละประเภท กับความสูงของตัวอาคาร เช่น บ้าน 1 ชั้นควรใช้ปั๊มน้ำประมาณ 150 วัตต์, บ้าน 2 ชั้นควรใช้ 250 วัตต์ และบ้าน 3-4 ชั้นควรใช้ 400 วัตต์ เป็นต้น
สรุปก็คือ บ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่ยกตัวอย่างข้างต้น ควรเลือกปั๊มน้ำที่มีระยะส่งน้ำไม่ต่ำกว่า 7 เมตร, ปริมาณการจ่ายน้ำไม่ต่ำกว่า 45 ลิตร/ นาที และควรเป็นปั๊มน้ำที่มีขนาดแรงดัน 250 วัตต์
ปั๊มน้ำมีแบบไหนบ้าง
• ปั๊มน้ำอัตโนมัติ (ทรงกระบอก)
ปั๊มน้ำจะดูดเอาน้ำจากถังเก็บน้ำมาพักไว้ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง เมื่อมีการใช้น้ำ น้ำที่ด้านล่างเครื่องปั๊มน้ำจะถูกส่งไปยังจุดต่าง ๆ ที่เราเปิดใช้งานน้ำ ปั๊มน้ำชนิดนี้ให้แรงดันน้ำสูงกว่าปั๊มน้ำแรงดันคงที่เมื่อเทียบกับกำลังวัตต์ที่เท่ากันค่ะ ราคาก็ไม่สูง ดูแลรักษาง่าย ทนทาน อะไหล่หาง่าย แต่ข้อเสียก็มีค่ะ หากใช้น้ำพร้อมกันหลาย ๆ จุด แรงดันน้ำอาจส่งไปในแต่ละจุดไม่เท่ากัน เนื่องจากต้องใช้แรงดันของอากาศดันน้ำออกไป ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ น้ำหนักเยอะ มีเสียงดังขณะที่ปั๊มน้ำทำงาน เพราะตัวถังทำจากโลหะค่ะ
• ปั๊มน้ำอัตโนมัติแรงดันคงที่ (ทรงเหลี่ยม)
เป็นปั๊มน้ำที่ผลิตขึ้นเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของปั๊มน้ำอัตโนมัติ โดยทำจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบา ขนาดเล็ก และไม่ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนเมื่อปั๊มน้ำกำลังทำงาน จึงหลีกเลี่ยงวัสดุที่ทำจากโลหะ และใช้วัสดุที่ทำจากยางและพลาสติกแทน ปั๊มน้ำชนิดนี้ยังสามารถควบคุมแรงดันน้ำให้คงที่ได้ดี สมชื่อ ปั๊มน้ำอัตโนมัติแรงดันคงที่ เพราะปั๊มน้ำจะจ่ายน้ำไปได้ทั่วถึงในแรงที่เท่ากันทุกก๊อก แม้ว่าจะเปิดใช้งานหลาย ๆ จุดพร้อมกัน แต่น้ำจะไม่แรงเท่ากับการใช้ปั๊มน้ำอัตโนมัติ และปั๊มน้ำชนิดนี้จะมีราคาสูงกว่าปั๊มน้ำอัตโนมัติอยู่หน่อยด้วยค่ะ
• ปั๊มน้ำอัตโนมัติ Inverter (ทรงเหลี่ยม)
ปั๊มน้ำชนิดนี้ถูกต่อยอดมาจากปั๊มน้ำอัตโนมัติแรงดันคงที่ รูปร่างหน้าตาจึงดูเหมือนกันค่ะ เป็นปั๊มน้ำที่ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า และประหยัดค่าไฟฟ้าได้ โดยเพิ่มระบบ Inverter ที่สามารถควบคุมมอเตอร์ได้ตามปริมาณการใช้น้ำจริง ทำให้สามารถควบคุมการจ่ายน้ำ และการใช้ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งแรงดันในการจ่ายน้ำไปยังจุดต่าง ๆ ที่ใช้น้ำพร้อมกันก็แรงสม่ำเสมอ เท่ากันทุกจุด แต่ปั๊มน้ำชนิดนี้ก็มีราคาสูงขึ้นไปกว่าปั๊มน้ำอัตโนมัติแรงดันคงที่อีกค่ะ
>> ช้อปปั๊มน้ำ ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ