ไม่พบรายการที่ท่านค้นหา

ค่าไฟถูกแน่! หากรู้เทคนิคการใช้เตารีดให้ประหยัดไฟ

          เข้าสู่หน้าร้อน เชื่อว่าหลายบ้านคงปวดหัวกับค่าไฟที่แพงขึ้นกว่าเดิมอยู่ไม่น้อย และเตารีดถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟเครื่องหนึ่งของบ้าน ซึ่งใช้กำลังไฟฟ้าสูงถึง 1,000 – 2,600 วัตต์ แต่ถึงจะกินไฟเยอะ ก็ยังเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นอยู่เช่นกัน ในบทความนี้ BnB home ชวนทุกคนมาดูเทคนิคดี ๆ ในการใช้เตารีดให้ประหยัดค่าไฟที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเตารีดธรรมดา เตารีดไอน้ำ หรือเตารีดแบบกดทับ หากใช้งานอย่างถูกต้อง เราก็จะสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้มากเลยทีเดียวครับ

เทคนิคที่จะช่วยให้ประหยัดไฟในการใช้เตารีด

1. สะบัดผ้าก่อนตาก

          เริ่มตั้งแต่การซักผ้า เมื่อซักผ้าเสร็จ ก่อนที่จะตากผ้าให้สะบัดผ้าแรง ๆ หลาย ๆ ครั้งก่อนตาก เพื่อช่วยให้ผ้าคลายความยับหลังการซักเสร็จ และเมื่อนำไปรีดจะทำให้ผ้าเรียบได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นเมื่อผ้าแห้งแล้ว ขณะรอรีด ควรแขวนผ้าหรือวางไว้ให้เรียบร้อย ไม่ควรวางทับกันในปริมาณมาก เพราะผ้ามีโอกาสยับมากขึ้น และจะทำให้รีดยากขึ้นด้วยเช่นกัน

2. เลือกใช้ขนาดเตารีดให้เหมาะสม

          เลือกกำลังไฟของเตารีด ให้เพียงพอสำหรับการใช้งานและจำนวนสมาชิกภายในบ้าน โดยปกติเตารีดที่กำลังไฟ 1,200 -1,600 วัตต์ ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่หากเป็นบ้านที่มีสมาชิกหลายคน อาจเลือกเตารีดกำลังไฟสูงขึ้นประมาณ 2,000 วัตต์ เพื่อการทำความร้อนที่ดีและเร็วกว่า จะช่วยประหยัดเวลาในการรีดผ้าลงได้ด้วย นอกจากนั้นควรเลือกเตารีดที่ติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 จะช่วยการันตีว่าประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้มากขึ้น

3. หมั่นทำความสะอาดผิวหน้าเตารีด

          ควรหมั่นสังเกตหน้าสัมผัสของเตารีด หากมีคราบสกปรกติดอยู่ ให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำธรรมดาเช็ด และถ้าคราบไม่ออกง่าย ๆ ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์เช็ดด้วยได้ เพราะคราบสกปรกจะไปต้านทานความร้อนที่จะออกจากเตารีด ทำให้สิ้นเปลืองไฟฟ้ามากขึ้น หรือหากเป็นเตารีดไอน้ำให้หมั่นเปลี่ยนน้ำและตรวจสอบดูว่ามีคราบตะกรันติดอยู่หรือเปล่า ถ้ามีให้รีบทำความสะอาดออก

4. เลือกระดับความร้อนให้เหมาะสม

          ตั้งปุ่มปรับระดับความร้อนให้เหมาะสม ผ้าจะเรียบหรือไม่เรียบ ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่ใช้ ถ้าเป็นผ้าบาง ๆ ที่ไม่ต้องการความร้อนมาก อาจไม่จำเป็นต้องตั้งให้ร้อนมากเพื่อประหยัดพลังงาน โดยทั่วไปที่เตารีดจะจัดลำดับกลุ่มผ้าไว้โดยมีเลขกำกับ เช่น กลุ่มผ้าอะคริลิกและผ้าอะซิเทด, กลุ่มผ้าไนลอนและผ้าไหม, กลุ่มผ้าเรยอนและผ้าโพลีเอสเตอร์, กลุ่มผ้าขนสัตว์, กลุ่มผ้าฝ้าย, กลุ่มผ้าลินิน เป็นต้น

5. แยกประเภทของผ้า

          ต่อเนื่องจากข้อด้านบน ก่อนจะรีดควรแยกประเภทของผ้าไว้เสมอ เพื่อจะได้ปรับระดับความร้อน ไอน้ำ ให้เหมาะสมกับผ้าที่จะรีด แล้วเลือกรีดผ้าชนิดที่ใช้ความร้อนต่ำก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนมารีดผ้าชนิดที่ต้องใช้อุณหภูมิเตารีดสูงขึ้น

6. รีดผ้าในจำนวนที่เหมาะสม

          ควรรวบรวมเสื้อผ้ามารีดให้ได้ปริมาณที่พอเหมาะในหนึ่งครั้ง ไม่ควรถอดปลั๊กแล้วเสียบ เพื่อรีดใหม่บ่อย ๆ รวมถึงเลือกรีดเฉพาะผ้าที่จำเป็น

7. พรมน้ำให้พอดี ไม่เปียกชุ่มจนเกินไป

          สำหรับเตารีดทั่วไปที่ไม่ใช่เตารีดไอน้ำ ในขณะรีดไม่ควรพรมน้ำจนชุ่มเกินไป และไม่ควรรีดผ้าในขณะที่ยังเปียกชื้น เพราะจะทำให้ใช้เวลาและพลังงานความร้อนในการรีดมากกว่าปกติ

8. หลีกเลี่ยงการรีดผ้าในห้องแอร์

          ถึงแม้อากาศจะร้อน แต่ก็ไม่ควรเปิดใช้เตารีดในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศอยู่ เพราะความร้อนจากเตารีด จะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักมากขึ้น และเตารีดก็ต้องใช้พลังงานมากขึ้นเช่นกัน

9. ถอดปลั๊กก่อนรีดผ้าเสร็จ

          ให้ปิดเตารีดหรือถอดปลั๊กออกก่อนรีดผ้าเสร็จประมาณ 3 - 4 นาที เพื่อช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าผ้าที่เหลือจะไม่เรียบ เพราะความร้อนที่เหลืออยู่ในเตารีดยังสามารถใช้รีดผ้าชนิดที่ไม่ต้องการความร้อนมากได้อีก

10. ตรวจสอบอุปกรณ์เตารีดเมื่อใช้งานนาน ๆ

          เตารีดที่ใช้งานมานาน ถึงจะไม่มีการเสียหายชำรุดให้เห็นเด่นชัด ก็ควรมีการตรวจสอบอุปกรณ์ภายในด้วยเช่นกัน เพราะอาจมีการชำรุด เสื่อมสภาพลง ทำให้เตารีดทำงานหนักขึ้นได้
          และนี่ก็คือเคล็ดลับการใช้งานเตารีดให้ประหยัดพลังงานมากที่สุด ลองนำไปทำตามกันครับ

ขอบคุณภาพจาก : pinterest.com

>> ช้อปเตารีด ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
แก้ปัญาเสื้อยืดเสียทรง เสื้อผ้าเป็นรอยจากไม้แขวนเสื้อ
ไอเดียราวตากผ้า สำหรับบ้านพื้นที่น้อย หรือคอนโด

สินค้าแนะนำ