รู้ไว้ก่อนเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าหรือเตาอินดักชั่น เรียกได้ว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวชิ้นสำคัญสำหรับคนยุคใหม่ ที่เร่งรีบและต้องการความสะดวกสบายในการทำอาหาร เตาแม่เหล็กไฟฟ้ายังเหมาะกับคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดหรือหอพักที่มีพื้นที่ทำครัวจำกัดอีกด้วย เพราะตัวเตาสามารถเคลื่อนย้ายออกมาทำอาหารและเก็บเข้าที่ได้ง่าย โดยการทำงานของเตาแม่เหล็กไฟฟ้า จะใช้ขดลวดทองแดงในการผลิตพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้เกิดความร้อนอย่างรวดเร็วกับภาชนะเครื่องครัวที่เหมาะสม

ในปัจจุบันเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเริ่มเป็นที่นิยมใช้ และมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก เพราะสามารถทำอาหารได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าเตาไฟฟ้า มีเทคโนโลยีการเหนี่ยวนำความร้อนของเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ช่วยให้ปรับอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ เร่งหรือลดได้ทันใจ แต่ก็มีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่บ้าง เช่น ต้องใช้ภาชนะที่ผลิตมาเพื่อรองรับการใช้งานโดยตรง เป็นต้น

สำหรับใครที่กำลังสนใจเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ในบทความนี้ BnB home จะชวนคุณมาดูข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ว่าต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง ไปส่องกันได้เลย

1. ชั่วโมงการใช้งานเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าทั่วไป มีชั่วโมงการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 2,500 ชั่วโมง หากเราใช้งานเตาแม่เหล็กไฟฟ้าภายในครัวเรือนทั่วไป จะเปรียบได้กับการใช้งาน 4 ชั่วโมงครึ่งทุกวันเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่ง อย่างไรก็ตาม หากเราใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าในการปรุงอาหารต่อวันหลายชั่วโมงมากกว่านั้น เช่น ในร้านอาหาร อายุการใช้งานเตาก็จะลดลงไปอีกประมาณครึ่งหนึ่ง เพราะอายุการใช้งานของเตาแม่เหล็กไฟฟ้านั้น จะไม่ได้คำนวณความเสื่อมจากการใช้งานต่อเนื่อง

ดังนั้นก่อนจะเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ควรถามถึงอายุการใช้งานของเตาและพิจารณาจากวิธีการใช้งานของเราด้วย เพื่อเทียบกับความคุ้มค่าของราคาที่จ่ายไป

2. ฟังก์ชั่นการใช้งานเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

เมื่อมีเตาแม่เหล็กไฟฟ้าให้เลือกหลากหลายแบรนด์และหลายราคา เราจึงควรพิจารณาจากฟังก์ชันการทำงานที่ตอบโจทย์การใช้งานของเรา เช่น

• มีระดับความร้อนให้ปรับหลากหลาย ทำให้เราสามารถทำอาหารได้หลายประเภท เช่น อุ่นอาหารด้วยไฟอ่อน ใช้ต้มผัดด้วยไฟปานกลาง ไปจนถึงการทอดที่ใช้ไฟแรงได้

• มีระบบตรวจจับฐานภาชนะ และตัดการทำงานเมื่อไม่มีภาชนะวางบนเตา

• มีระบบสัมผัสหน้าจอ LED ทำให้มองเห็นชัด

• มีฟังก์ชันป้องกันไม่ให้เด็กเปลี่ยนการตั้งค่า

• มีระบบตัดการทำงานเมื่อน้ำแห้ง เป็นต้น

3. กำลังไฟของเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าทั่วไปจะมีกำลังไฟอยู่ที่ 1,600 – 2,000 วัตต์ ซึ่งจะเป็นกำลังไฟที่เหมาะสมกับการใช้งานภายในครัวเรือนทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเตาแม่เหล็กไฟฟ้ามีกำลังไฟให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่เตาขนาดเล็กกินไฟต่ำ 300 วัตต์ จนถึงเตาขนาดใหญ่ที่กินไฟมากถึง 50,000 วัตต์ อาหารบางชนิดที่เน้นไฟแรง หรือทำในปริมาณมาก แนะนำควรใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีกำลังไฟ 3,500 วัตต์ขึ้นไป

4. คุณภาพของโครงสร้างและวัสดุของเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

วัสดุเตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งพลาสติกทั่วไป, พลาสติก ABS, เหล็ก, สแตนเลส, เซรามิค เป็นต้น ซึ่งราคาจะแตกต่างกันตามคุณภาพของวัสดุ เตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่ผลิตจากพลาสติกที่คุณภาพไม่ดี จะทนความร้อนได้ไม่มาก เมื่อใช้เป็นเวลานาน พลาสติกจะสึกเร็ว กรอบและแตกหัก ซึ่งวัสดุที่เป็นที่นิยมคงหนีไม่พ้น สแตนเลส นอกจากนั้นยังต้องเลือกพื้นผิวที่ทำความสะอาดง่าย กันน้ำได้ มีความแข็งแรงทนทาน สามารถรับแรงกระแทกได้ เมื่อเกิดการเคลื่อนย้าย

5. ประกันและบริการหลังการขาย

เรื่องการรับประกันเป็นอีกสิ่งที่ต้องพิจารณา เพราะเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีมาตรฐาน ต้องได้มีการประกันสินค้าอย่างน้อย 1 ปี นอกจากนั้น ยังควรต้องดูบริการหลังการขาย เพราะว่าไม่ว่าอุปกรณ์และวัสดุจะดีแค่ไหน ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดการชำรุดได้ บริการหลังการขายที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้อุ่นใจเมื่อเราซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าไปใช้งาน

ขอบคุณภาพจาก : pinterest.com