จัดกระเป๋าเดินทางอย่างไร ให้ประหยัดพื้นที่

          ก่อนไปเที่ยวมีใครรู้สึกลำบากกับการจัดกระเป๋าบ้างมั้ย แบบว่า..บางคนอยากขนชุดสวย ๆ ไปใส่ถ่ายรูปเก๋ ๆ แต่ก็เอาไปเกินความจำเป็นทุกที บางคนกลัวว่าจะเอาของไปไม่พอใช้หรือเอาไปไม่ครบ แต่ของที่คุณเอาไปอาจจะไม่ได้ใช้และทำให้น้ำหนักกระเป๋าเกินก็ได้ หรือคนไหนจะไปเที่ยวกันเป็นครอบครัว พื้นที่กระเป๋าส่วนนึง ต้องแบ่งให้ลูกจะจัดกระเป๋ายังไงดี หรือแม้แต่บางคนที่อยากไปเที่ยวแบบ backpack ต้องจัดกระเป๋ายังไงให้ได้ใช้พื้นที่อย่างเกิดประโยชน์ที่สุด และยังมีอีกร้อยแปดเหตุผลเกี่ยวกับพื้นที่ในการจัดกระเป๋าไปเที่ยว ...อย่ากังวลไป คุณจะผ่านด่านจัดกระเป๋าอันหฤโหดนี้ไปได้ด้วยดีแน่นอน เพราะ BnB home หาทริคจัดกระเป๋าเที่ยวปีใหม่ จัดยังไงให้ประหยัดพื้นที่มาฝากคุณแล้ว

          ก่อนอื่น..ให้คุณเลือกกระเป๋าเดินทาง ใบที่เหมาะสมกับทริปที่คุณจะไปเที่ยว ด้วยการดูจำนวนวันที่คุณจะเดินทาง

1 - 3 วัน ควรใช้กระเป๋าเดินทางแบบ Weekender

3 - 14 วัน ควรใช้กระเป๋าเดินทางแบบ Carry-on

15 วันขึ้นไป ควรเป็นกระเป๋าเดินทางแบบ Extended trip

          ถ้าสนามบินที่คุณจะไป ต้องมีการเดินเชื่อมตึก หรือสถานที่ที่คุณไปเที่ยว ต้องเดินเยอะ แนะนำให้ใช้กระเป๋าเดินทางแบบมีล้อเลื่อน การท่องเที่ยวของคุณจะง่ายขึ้น

จัดกระเป๋าเดินทาง

          สามารถเอาไปปรับใช้กับทั้งการเดินทางนานเป็นเดือน เป็นสัปดาห์ หรือปรับใช้กับทุก ๆ ทริปได้เลย

          1. ม้วนเสื้อผ้าชิ้นบาง เพื่อประหยัดพื้นที่ และช่วยลดการเกิดรอยยับ ม้วนได้กับทั้งเสื้อยืด (เหมาะสุด ๆ) กางเกงที่ไม่หนามาก ผ้าขนหนู วิธีม้วน คือ วางเสื้อผ้าที่จะม้วนไว้บนพื้นเรียบ แล้วพับครึ่ง จากนั้นก็ทำการม้วน โดยม้วนจากบนไล่ลงมาที่ปลาย เป็นอันเรียบร้อย

          2. ซีลเสื้อผ้าชิ้นหนา ในถุงซิปล็อค เช่น เสื้อกันหนาว ถ้าพับแล้วใส่ลงในกระเป๋าเลย ความใหญ่ฟูของผ้าทำให้เสียพื้นที่ไป จึงควรเพิ่มพื้นที่ให้กระเป๋าเดินทาง โดยใส่เสื้อผ้าชิ้นหนาลงในถุงซิปล็อค จากนั้นให้รีดอากาศออกให้หมด จนถุงฟีบแบน ก็ให้ปิดปากถุงให้เรียบร้อย

          3. แยกชุดชั้นใน ไว้ในกระเป๋าเล็กอีกใบ เพื่อความเป็นสัดเป็นส่วน หยิบใช้ได้สะดวก สำหรับผู้หญิง เพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อชั้นในเสียทรง ให้พับกางเกงชั้นในใส่ไปตรงช่องว่าง

          4. จัดหมวดหมู่ของ แล้วแยกใส่กระเป๋าแต่ละใบ เช่น อุปกรณ์ใช้ในห้องน้ำ และครีมบำรุงผิว/ เครื่องสำอาง/ ยา แยกเก็บใส่กระเป๋าตามหมวดหมู่ อุปกรณ์ไฟฟ้าและสายชาร์จต่าง ๆ ม้วนเก็บไว้ในกล่องแว่นอันเก่าก็ได้ เครื่องประดับ สามารถแยกใส่กล่องยาได้ เพื่อให้จัดเก็บเป็นระเบียบและหยิบใช้ได้ง่าย และหากคุณพกน้ำหอมที่เป็นขวดแก้วหรือของที่แตกง่ายไปด้วย แนะนำให้เอาของพวกนั้นใส่ไว้ในถุงเท้า และใส่เข้าไปในรองเท้าอีกชั้น เพื่อป้องกันการกระแทกและเป็นการใช้ทุกพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ได้ อีกทั้งยังช่วยรักษารูปทรงของรองเท้าได้ด้วย

ขอบคุณรูปจาก fabartdiy.com

          5. จัดเรียงของเข้ากระเป๋าเดินทาง โดยใช้หลักพิรามิด วางของที่มีความหนาหรือมีน้ำหนักมากไว้ด้านล่าง เพื่อให้ฐานแน่น แล้วค่อย ๆ เรียงของเล็ก ๆ ไว้ด้านบน วิธีการ คือ กางกระเป๋าเดินทางไว้บนพื้นเรียบ จัดเรียงม้วนเสื้อผ้าให้เต็มพื้นที่ก้นกระเป๋า จากนั้นวางกางเกงขายาวที่พับครึ่ง เรียงยาวตามแนวยาวของกระเป๋าเดินทาง แล้วจัดเรียงพวกกระเป๋าของใช้ต่าง ๆ แต่ละใบลงไปบนกางเกง เมื่อจัดเรียงเรียบร้อยแล้ว ให้พับขากางเกงเข้าหากันที่ตรงกลางกระเป๋า จะช่วยให้กางเกงห่อหุ้มของที่อยู่กลางกระเป๋าได้

          6. ถุงหรือกระเป๋าแยกเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว อย่าลืมพกไปด้วย จะได้ใช้แยกผ้าสะอาดออกจากผ้าที่ใช้แล้ว ถุงนี้อาจเป็นถุงผ้าตะข่ายเพื่อระบายอากาศ จะได้ไม่มีกลิ่นอับของเสื้อผ้า หรือถ้าใครยังกังวลว่าถุงผ้าตะข่ายจะทำให้ผ้าสะอาดปะปนกับผ้าที่ใช้แล้วอยู่ ก็สามารถเลือกหาถุงใส่ผ้าแบบที่ไม่ใช่ตาข่าย แต่เป็นถุงที่สามารถระบายอากาศได้ดีก็ได้ กระเป๋าเดินทางจะได้ไม่มีกลิ่นอับ

          7. เติมเต็มพื้นที่ว่างในกระเป๋าเดินทาง ไม่อย่างงั้นจะทำให้สิ่งของต่าง ๆ ในกระเป๋าเดินทางเคลื่อนย้าย กระจัดกระจาย ไม่เป็นระเบียบได้ค่ะ จึงควรหาสิ่งของมาอุดพื้นที่ว่างให้เต็ม อาจเป็นหมอนรองคอแบบเป่าลม หรือกระเป๋า Tote bag ที่สามารถพับเก็บและคลี่ออกมาใช้งานเมื่อจำเป็นได้ หากขากลับต้องการใช้พื้นที่ในกระเป๋าเดินทาง เราก็สามารถเอาลมออกจากหมอนรองคอแล้วพับเก็บ กระเป๋า Tote bag ก็คลี่ออกมาใส่ของฝากหรือของที่ช้อปปิ้งมาก็ยังได้ พื้นที่ในกระเป๋าเดินทางก็เพิ่มขึ้นอีก

จัดกระเป๋าเที่ยวกับลูก/ ครอบครัว

          นอกจากเตรียมเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ของตัวเองแล้ว ยังมีเสื้อผ้าและข้าวของของลูกอีก ทั้งเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ของลูกที่มีจำนวนเยอะกว่าของตัวเองซะอีก ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับเด็ก อุปกรณ์การกินสำหรับเด็ก ผ้าอ้อม แพมเพิส และที่ขาดไม่ได้เลย คือพวกของเล่นหรือผ้าห่มอุ่นใจ ตุ๊กตาอุ่นใจเวลานอนของลูกน้อย

          ขั้นตอนการเตรียมเสื้อผ้าและของใช้ต่าง ๆ คล้ายกับการจัดกระเป๋าเดินทางของตัวเองเลย

          1. ม้วนเสื้อผ้าแทนการพับ เพื่อประหยัดพื้นที่

          2. ซีลเสื้อผ้าหนา ๆ ลงถุงซิปล็อค เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กระเป๋าเดินทาง

          3. แยกชุดชั้นในไว้ในกระเป๋าจัดระเบียบใบเล็ก เพื่อให้เป็นสัดเป็นส่วน

          4. จัดของใช้ตามหมวดหมู่ ใส่ลงกระเป๋าแต่ละใบ จะได้สะดวกและหยิบใช้ง่าย

          และขั้นตอนสำคัญอยู่ที่ตรงนี้!! คือ การจัดเก็บเสื้อผ้า ของใช้ต่าง ๆ ของทุกคนลงกระเป๋าค่ะ แนะนำให้ใช้กระเป๋าจัดระเบียบหลากไซส์ หลายสี มาจัดเก็บเสื้อผ้าและของใช้ต่าง ๆ จะช่วยให้การจัดกระเป๋าเดินทางและการหยิบใช้ง่ายขึ้นเยอะเลย ให้แยกไปเลย พ่อ แม่ และลูกใช้กระเป๋าจัดระเบียบคนละสี ง่ายกับการหยิบใช้ จะได้ไม่สับสนว่าเสื้อผ้าหรือของใช้ใครอยู่ตรงไหน และไม่ต้องยุ่งยากในการเปิดหา

จัดกระเป๋าเป้ backpack

          หลักการเตรียมเสื้อผ้าและของใช้ต่าง ๆ จะคล้ายกันกับเตรียมของเพื่อจัดเก็บลงกระเป๋าเดินทางเลย คือ

          1. ม้วนเสื้อผ้าแทนการพับ และเก็บไว้ในกระเป๋าจัดระเบียบเสื้อผ้าให้เรียบร้อบ

          2. เสื้อผ้าชิ้นหนาให้ซีลด้วยถุงซิปล็อค เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับกระเป๋า

          3. แยกชุดชั้นใน ไว้ในกระเป๋าใบเล็ก

          4. จัดหมวดหมู่ของใช้ต่าง ๆ แล้วแยกใส่กระเป๋า

          ส่วนขั้นตอนการจัดเก็บของต่าง ๆ ลงกระเป๋านั้น ต่างกันโดยสิ้นเชิงเลย การจัดกระเป๋าเป้ควรมีหลักการจัดที่ดี เพราะถ้าจัดของลงผิดที่ผิดทาง อาจทำให้คุณต้องแบกกระเป๋าที่หนักขึ้นได้เลย แนะนำให้จัดกระเป๋าแบบกระจายน้ำหนักตามรูปด้านล่างนี้เลย

ขอบคุณรูปจาก thepuffinhouse.com

          1. ของน้ำหนักเบา เช่น ถุงนอนและอุปกรณ์การนอน เสื้อกันหนาวสำรอง ของที่เบาและนุ่ม หรือของที่ไม่จำเป็นต้องใช้ระหว่างวัน ควรจัดเก็บไว้ที่ก้นกระเป๋า

          2. ของน้ำหนักมาก ให้จัดเก็บไว้ติดกับแผ่นหลัง และอยู่ตรงกลางระหว่างไหล่ทั้ง 2 ข้าง เพื่อที่น้ำหนักจะได้กระจายลงไปให้สะโพกช่วยประคอง ไม่ทำให้ปวดหลัง ของที่น้ำหนักมาก เช่น น้ำสำรอง เครื่องครัวพกพา เป็นต้น

          3. ของน้ำหนักปานกลาง เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว พวกอุปกรณ์ในห้องน้ำ หรือของที่ต้องมีการหยิบใช้ทุกวันแต่อาจจะไม่ตลอดเวลา ควรอยู่ด้านบนและด้านหน้าของกระเป๋า

          4. ของที่ต้องหยิบใช้บ่อย เช่น ที่ชาร์ตแบต แว่นกันแดด ครีมกันแดด ยาหรือชุดปฐมพยาบาล ถุงคลุมกระเป๋ากันฝน ทิชชู่ หรือขนมขบเคี้ยว เป็นต้น ควรอยู่บนสุดของกระเป๋า หรือตามช่องเล็กช่องน้อยที่แต่ละกระเป๋ามีก็ได้

>> ช้อปอุปกรณ์สำหรับการเดินทาง ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

หนาวแล้ว..หาผ้าห่มอุ่นๆ ไว้นอนซุกตัวกันหรือยัง

รู้หรือไม่!! ทำไมถึงต้องแยกขยะ?