ไม่พบรายการที่ท่านค้นหา

ถอดผ้าม่านมาซักด้วยตัวเองได้ไหม

          ผ้าม่านถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยกันแสงแดด และสร้างบรรยากาศให้ห้องของเรามีความอบอุ่นมากขึ้น แต่ก็ถือเป็นสิ่งที่กักเก็บฝุ่นได้มากที่สุดชิ้นหนึ่งของบ้านเลยทีเดียว หากอยากจะจ้างร้านเพื่อทำความสะอาดผ้าม่านก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูง BnB home จึงขอนำวิธีซักผ้าม่านด้วยตัวเองมาฝากกันครับ เพื่อให้ม่านของบ้านเรากลับมาสะอาด เวลาเปิดปิดก็ไม่ต้องกลัวฝุ่นกระจาย แถมยังเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของผ้าม่านไปด้วยครับ

ข้อควรรู้ก่อนนำผ้าม่านไปซัก

          • ตรวจดูป้ายสัญลักษณ์ที่ติดมากับผ้าม่านก่อน ว่าเป็นผ้าชนิดไหน ต้องซักแห้งโดยเฉพาะหรือไม่ ถ้าเป็นผ้าไหมหรือผ้าไนล่อน แนะนำให้ซักมือด้วยการขยี้เบา ๆ แต่ถ้าเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าลินินก็สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้เลย
          ม่านตาไก่ที่มีห่วงโดยส่วนใหญ่ห่วงตาไก่จะเป็นห่วงที่ประกบกัน 2 ด้าน ต้องถอดห่วงตาไก่ออกก่อน
          • ม่านจีบ และม่านลอน ที่มีตะขอแขวนด้านหลัง ต้องถอดตะขอด้านหลังออกก่อน ถึงเอาลงเครื่องซักผ้าได้
          • ผ้าม่านที่มีโซ่ถ่วงอยู่ด้านล่างให้ถอดโซ่ออกมาก่อน โดยใช้กรรไกรค่อย ๆ เลาะด้ายตรงส่วนปลายระยะประมาณ 1 เซนติเมตรทั้งซ้ายและขวา ระวังอย่าให้โดนเนื้อผ้า ผ้าที่คล้องหัวโซ่จะหลุดออก แล้วนำไปซักได้
          • ผ้าม่านที่มีโซ่ถ่วงอยู่ด้านล่างยังสามารถนำไปซักได้ทั้งที่ไม่ถอดโซ่อีกด้วย โดยเอาถุงเท้าหรือผ้าหนา ๆ หุ้มที่ปลายโซ่ แล้วมัดด้วยหนังยางให้แน่น เพื่อกันโซ่ตีถังซัก แต่วิธีนี้อาจมีความเสี่ยงที่โซ่จะเกิดสนิม จึงต้องระวังในการตากให้แห้งเช่นกัน


การซักผ้าม่านด้วยมือ

          1. นำผ้าม่านไปแช่น้ำเย็นผสมผงซักฟอกสัก 30 - 60 นาที เพื่อให้ฝุ่นที่เกาะลึกในเนื้อผ้าม่านได้คลายตัวออกมา
          2. ล้างด้วยน้ำเปล่า 2 - 3 น้ำ บิดให้หมาด แล้วนำมาตากให้แห้งในที่อากาศถ่ายเทสะดวก โดยการแขวนตากให้พยายามจัดจีบผ้าม่านตามรอยเดิม เพื่อให้ผ้าม่านคงรูปเดิมและยับน้อยที่สุด


การซักผ้าม่านด้วยเครื่องซักผ้า

          1. นำผ้าม่านเข้าเครื่องซักผ้า หากเป็นผ้าม่านที่มีโซ่ถ่วงอยู่ด้านล่าง แล้วคุณไม่อยากถอดโซ่ ให้นำถุงเท้าหรือผ้าหนา ๆ มาหุ้มที่ปลายโซ่ก่อน แล้วมัดด้วยหนังยางให้แน่น เพื่อกันไม่ให้โซ่ตีถังซักเกิดความเสียหาย
          2. ตั้งโปรแกรมซักแบบถนอมเนื้อผ้า และตั้งให้เครื่องล้างน้ำ 2 ครั้ง ควรใช้อุณหภูมิน้ำไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส
          3.ใส่ผงซักฟอกที่อ่อนโยนต่อผ้า เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าหดตัว
          4. สามารถใส่น้ำส้มสายชู 1 ถ้วยต่อการซักผ้าม่าน 7 - 9 กิโลกรัมได้ เพื่อช่วยให้คราบเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียที่ฝังแน่นหลุดออกง่ายขึ้น
          5. ถ้าผ้าม่านมีขนาดใหญ่ ให้ใส่ผ้าขนหนูที่ไม่ใช้ลงไปซักด้วย ผ้าขนหนูจะช่วยดูดสิ่งสกปรกออกจากผ้าม่านได้ง่ายอีกทาง
          6. เมื่อเครื่องทำการซักเสร็จเรียบร้อย ให้รีบนำผ้าม่านออกจากเครื่องทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะจะทำให้ผ้าม่านยับมาก
          7. การตากสามารถตากได้ 2 วิธีคือ นำไปแขวนที่รางม่านเดิม แล้วเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวก ใช้เวลาไม่นานผ้าม่านก็แห้งสนิท และการนำไปตากที่ราวตากผ้าแล้วผึ่งในที่ร่ม มีลมผ่าน ไม่ให้โดนแดดโดยตรง
          8. ถ้าผ้าม่านที่แห้งแล้วมีรอยยับมาก สามารถรีดด้วยเตารีดไอน้ำที่อุณหภูมิต่ำได้ เพื่อไม่ให้ความร้อนทำลายเนื้อผ้า

ขอบคุณภาพจาก : pinterest.com

>> ช้อปผ้าม่าน ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คุณซักผ้านวมและผ้าปูที่นอน 'ผิด' วิธีกันอยู่หรือเปล่า !!
ทิปส์ดีๆ สำหรับแม่บ้าน ซักผ้าขนหนูให้นุ่มฟูไร้กลิ่นอับ

สินค้าแนะนำ