ไม่พบรายการที่ท่านค้นหา

ตู้เสื้อผ้าไม้แบบไหนดี รู้จักวัสดุที่นิยมทำตู้เสื้อผ้า

          ในปัจจุบันตู้เสื้อผ้ามีให้เลือกหลากหลายดีไซน์และหลายวัสดุ แต่วัสดุที่เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนานและมีขายแพร่หลายก็คือวัสดุไม้ นั่นเอง ซึ่งวัสดุไม้ที่ใช้ทำตู้เสื้อผ้าก็มีหลายเกรด ทั้งไม้แท้และไม้เทียม ซึ่งวัสดุหลักที่นิยมในการทำตู้เสื้อผ้าไม้ จะมีอยู่ประมาณ 5 ชนิดด้วยกัน แต่ละชนิดก็จะมีข้อดีและข้อด้อยที่แตกต่างกันอยู่ บทความนี้จะให้คุณได้รู้จักวัสดุไม้ชนิดต่าง ๆ ที่นิยมนำมาทำตู้เสื้อผ้าทั้งแบบเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและแบบบิ้วท์อินกันครับ




1. ไม้ปาติเกิล (Particle Board)

          การผลิตไม้ปาติเกิลนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเศษไม้ยางพาราขนาดเล็ก แต่ไม่ได้บดผง โดยเศษไม้เหล่านี้จะมีขนาดที่ไม่เท่ากัน บางชิ้นก็ใหญ่ บางชิ้นก็เล็ก จะถูกนำมาผสมกาวและผ่านกรรมวิธีอัดบดเป็นแผ่น และผ่านกระบวนการทางเคมีจนได้แผ่นไม้ต่างขนาดกัน โดยความหนาของไม้ที่นิยมใช้มาทำเฟอร์นิเจอร์ จะอยู่ที่ประมาณ 15 และ 25 มิลลิเมตร โดยก่อนนำไปใช้งานพื้นผิวด้านนอกจะปิดทับด้วย กระดาษพิมพ์ลายไม้, แผ่นฟอยล์ หรือแผ่นเมลามีน
          ไม้ชนิดนี้นิยมนำไปทำเฟอร์นิเจอร์อันดับต้น ๆ ในอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้ เนื่องจากมีราคาต้นทุนที่ต่ำมาก

ข้อดีของตู้เสื้อผ้าไม้ปาติเกิล

          • ราคาถูกมาก
          • มีน้ำหนักเบา ขนย้ายสะดวก
          • เป็นที่นิยมหาซื้อได้ง่าย

ข้อเสียของตู้เสื้อผ้าไม้ปาติเกิล

          • ไม่แข็งแรงเท่าไม้ชนิดอื่น
          • ไม่ทนน้ำ หากห้องมีความชื้นมาก ๆ อาจมีเชื้อราขึ้นได้ ต้องหมั่นคอยดูแล

2. ไม้ MDF (Medium Density Fiberboard)

          ไม้ MDF เป็นการนำเอาเศษขี้เลื่อยของไม้ยางพาราหรือไม้ยูคาลิปตัสมาบด แล้วนำเอาไปบีบอัดในเครื่องอัดแรงดันสูงมากพร้อมความร้อน จนเกิดเป็นความหนาแน่น ลักษณะจะคล้ายกับ แผ่นไม้ปาติเกิล แต่ด้วยกระบวนการผลิตที่มีความละเอียดซับซ้อน จึงทำให้เนื้อไม้ มีความแน่น ละเอียด ผิวเนียนมากกว่า
          ซึ่งความหนาของแผ่นไม้ MDF ที่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ มีหลากหลายขนาด ตั้งแต่ 3 มิลลิเมตร ถึง 25 มิลลิเมตร ขึ้นอยู่ว่าจะนำไปใช้ประกอบ หรือ รับน้ำหนักส่วนไหนของเฟอร์นิเจอร์ โดยก่อนนำไปใช้งานพื้นผิวด้านนอกจะมีการปิดผิวด้วย กระดาษลายไม้ หรือด้วยพีวีซี (PVC) ก็จะมีความแข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังพ่นสีทับไปบนพื้นผิวด้านนอกได้ออกมาเรียบเนียนกว่าไม้ปาติเกิลมาก

ข้อดีของตู้เสื้อผ้าไม้ MDF

          • ราคาไม่แพงมาก
          • น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก
          • ความหนาแน่นของแผ่นไม้สูงกว่าไม้ปาร์ติเกิ้ล
          • ผิวละเอียด เรียบเนียนตลอดทั้งแผ่น
          • มีความแข็งแรงมากกว่า รับน้ำหนักได้มากกว่า
          • สามารถทนน้ำได้ดีกว่าไม้ปาร์ติเกิ้ล

ข้อเสียของตู้เสื้อผ้าไม้ MDF

          • มีราคาที่สูงกว่าไม้ปาร์ติเกิ้ล
          • มีน้ำหนักมากกว่าไม้ปาร์ติเกิ้ล เนื่องจากเนื้อไม้มีความหนาแน่นมากกว่า
          • ไม่กันมอดปลวก
          • ต้องระวังเรื่องความชื้นและการโดนน้ำเช่นกัน

3. ไม้ HMR (High Moisture Resistance Board)

          HMR คือวัสดุที่พัฒนามาจากไม้ MDF จะใช้กรรมวิธีการผลิตเดียวกันกับวัสดุ MDF แต่จะพิเศษกว่า ด้วยการใช้สารทนความชื้นเคลือบเนื้อไม้ไว้ทั้งแผ่น รวมไปถึงเนื้อไม้ด้านในด้วย ซึ่งจะมีความสามารถในการทนต่อความชื้น และมีความแข็งแรงขึ้น ทำให้วัสดุ HMR ได้รับความนิยมมากกว่า MDF เป็นอย่างมาก

ข้อดีของตู้เสื้อผ้าไม้ HMR

          • มีราคาถูก น้ำหนักเบา
          • สามารถโดนน้ำได้ในระดับนึง ทนต่อความชื้นได้ดีกว่า MDF
          • ทำสีได้ง่ายขึ้น มีความสวยงาม ผิวดูเรียบ และมีออปชั่นให้เลือกมากมาย
          • เนื้อไม้จะมีความแน่นกว่า และแข็งแรงกว่า MDF
          • ตัด เจาะ เซาะร่อง ไม่เป็นขุย

ข้อเสียของตู้เสื้อผ้าไม้ HMR

          • ไม่สามารถรองรับน้ำหนักเยอะ ๆ ได้ อาจเกิดการงอได้เหมือนกัน
          • ไม่กันมอดปลวก

4. ไม้พลาสวูด

          พลาสวูด (Plaswood) คือ แผ่นพีวีซีโฟร์มชนิดแข็ง (PVC Foam Sheet) ซึ่งเป็นวัสดุที่ผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนวัสดุไม้ และเป็นวัสดุทางเลือกที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น ทนทาน และรับน้ำหนักได้สูง สามารถนำไปผลิตได้หลากหลาย ตั้งแต่โครงสร้างต่าง ๆ ไปจนถึงหน้าบานชั้นวางต่าง ๆ

ข้อดีของตู้เสื้อผ้าไม้พลาสวูด

          • มีน้ำหนักเบากว่าไม้ HMR
          • มีความแข็งแรง ทนทาน แต่ก็มีความยืดหยุ่น
          • ทนทานต่อความร้อน แดด ฝน
          • ทนต่อความชื้นได้ดีและไม่ลามไฟ
          • กันน้ำกันปลวกได้

ข้อเสียของตู้เสื้อผ้าไม้พลาสวูด

          • ราคาค่อนข้างสูง
          • อาจจะเกิดการงอได้ ถ้าเลือกใช้ความหนาผิดขนาด

5. ไม้แท้ หรือ ไม้จริง

          จะสามารถแยกออกได้ ไปหลากหลายชนิด ไม้ที่ใช้ทำตู้เสื้อผ้ามีทั้งไม้เนื้อแข็งและเนื้ออ่อน หากเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก, ไม้โอ๊ค, ไม้แอช, ไม้วอลนัท, ไม้เชอร์รี่ เป็นต้น จะเป็นไม้ที่โตช้าใช้เวลานานหลายปีกว่าจะนำมาใช้งานได้ จึงมีวงปีมากกว่าไม้เนื้ออ่อน และหากเป็น ไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้ยาง, ไม้ฉำฉา, ไม้โมก, ไม้กระท้อน, ไม้ยมหอม, ไม้จำปาป่า เป็นต้น จะเป็นไม้โตเร็ว มีวงปีกว้าง ลายไม้น้อยและเนื้อไม้ไม่แน่น จะมีความแข็งแรงน้อยกว่าไม้เนื้อแข็ง
          แต่ไม่ว่าจะเป็นไม้เนื้ออ่อนหรือเนื้อแข็ง ก็มีความทนทานมากกว่าไม้ชนิดอื่น ๆ เพราะเป็นไม้เนื้อเดียว จากธรรมชาติเลยจริง ๆ ไม่ได้ถูกบด แล้วนำมาบีบอัดทีหลัง นั้นความทนทานจะสูงมาก ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องทำการอบน้ำยาเพื่อป้องกันเชื้อรา แมลง ปลวก มอดกินไม้ต่าง ๆ ด้วย

ข้อดีของตู้เสื้อผ้าไม้แท้

          • มีความแข็งแรงทนทาน ถ้าอายุไม้อยู่ในระดับที่พอดี
          • มีความสวยงาม จากลวดลายไม้ เนื้อไม้ธรรมชาติ

ข้อเสียของตู้เสื้อผ้าไม้แท้

          • มีราคาแพง ต้องดูดี ๆ ว่า ไม้แท้ ที่ได้มาทำเฟอร์นิเจอร์ มีอายุเก่าแก่มากน้อยเพียงใด ถ้าได้อายุน้อย ๆ ก็อาจจะไม่แข็งแรงได้
          • ต้องระวังเรื่องปลวกและแมลงต่าง ๆ

ขอบคุณภาพจาก : pinterest.com, flashdesign.co.th

>> ช้อปตู้เสื้อผ้า ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ดูแลโซฟาหนังให้สวยนาน ไม่ยากอย่างที่คิด
เลือกซื้อที่นอนยางพาราอย่างไร ไม่ให้โดนหลอก

สินค้าแนะนำ